
ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง โวยปมย้ายคณะเทคโนโลยีการเกษตร ไปอยู่ จ.สุพรรณบุรี เหตุต้องการพื้นที่ไปสร้างคณะใหม่ ที่ค่าเทอมแพงกว่า ด้านหนึ่งในสมาชิกของสกุล บุนนาค ซึ่้งเป็นผู้บริจาคที่ดิน เพื่อสร้างโรงเรียนเกษตรกรรมเจ้าคุณทหาร หรือคณะเทคโนโลยีการเกษตรในปัจจุบัน ถามเกิดอะไรขึ้น
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังเพจเฟซบุ๊ก PR Kmitl ได้นำประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 133 ตอนพิเศษ 135 ง วันที่ 14 มิถุนายน 2559 หน้า 20 มาเผยแพร่ พร้อมระบุว่า การจัดตั้งส่วนงานในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งประกอบด้วย

1. วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ
2. วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
3. วิทยาลัยวิจัยนวัตกรรมทางการศึกษา
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
พอเห็นว่า มีการตั้งวิทยาลัยขึ้นมาใหม่ ใคร ๆ ก็คงคิดว่า เป็นเรื่องดี เพราะเท่ากับการเพิ่มช่องทางการศึกษาให้กับเด็ก ๆ แบบนี้ จะกลายเป็นดราม่าร้อน ๆ ได้อย่างไร แต่งานนี้ การก่อสร้างที่ว่า ดันไปเบียดเบียนพื้นที่ของคณะเทคโนโลยีการเกษตร หรือโรงเรียนเกษตรกรรมเจ้าคุณทหาร ซึ่งเจ้าพระยาสุรวงษ ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ได้บริจาคพื้นที่ดังกล่าว เพื่อสร้างสถานศึกษาดังกล่าวขึ้นมา เพื่อให้การศึกษาแก่บุตรหลานคนยากจนในท้องถิ่นให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
พอเป็นแบบนี้ ก็มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ชื่อว่า คุณ อาม่าไม่รู้ว่าเล่นพันทิพย์ ตั้งกระทู้ "คิดอย่างไรกับการจะย้ายคณะเกษตรเจ้าคุณทหารลาดกระบังไปที่ จ.สุพรรณ แล้วเอาที่ไปสร้างคณะเกษตรไปคณะใหม่ค่าเทอมแพง ๆ คะ" พร้อมนำข้อมูลที่กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ทั้งจาก เพจ ประชาคมเกษตรเจ้าคุณ และเพจ บุนนาค Bunnag ซึ่งมีคุณพรรณพร บุนนาค ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสกุล บุนนาค ดูแลเพจดังกล่าวอยู่ มาโพสต์ถามความคิดเห็นจากบรรดาสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม งานนี้ บรรดาศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น




โดยบางรายบอกว่า แม้ตนไม่ได้จบจากคณะเทคโนโลยีการเกษตร แต่ก็เห็นว่า การที่ย้ายคณะไปพื้นที่ใหม่ ซึ่งมีพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า ทั้งยังจะสามารถทดลองปฏิบัติงานจริงได้ แถมค่าครองชีพน่าจะถูกกว่าด้วย เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีคนเข้ามาแย้งว่า แต่เดิมคณะเทคโนโลยีการเกษตร มีแปลงปฏิบัติงานครบ ทั้งแปลงวิจัย หรือแปลงทดลอง แต่เราโดนบีบพื้นที่ของคณะ จนตอนนี้เหลือแปลงเรียนพื้นที่สุดท้าย แถมยังมาโดนไล่ที่อีก
ขณะที่บางคนก็ขอให้ผู้บริหารช่วยศึกษาเจตนารมณ์ของผู้บริจาคด้วยว่า ผู้บริจาคเขาบริจาคที่ดินเพื่ออะไร และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยไหน ขับไล่คณะเดิมของผู้ก่อตั้งไปอยู่ที่อื่น เพื่อทำที่ดินดังกล่าว มาเปิดคณะใหม่ที่ค่าเทอมแพง ๆ กว่าแบบนี้
อีกส่วนก็เข้ามาแย้งว่า เมื่อเจ้าของกระทู้บอกเองว่าตอนนี้พื้นที่เหลือนิดเดียว การย้ายไปต่างจังหวัด จะได้มีพื้นที่กว้าง ๆ ใช้ในการทดลองทางการเกษตรได้มากขึ้น ก็น่าจะเป็นเรื่องดี แล้วคำพูดที่ว่า "ของ ๆ ใครใครก็รัก" ที่ดินตรงนี้เป็นของสถาบันไม่ใช่ของคุณ ทางสถาบันมีสิทธิที่จะพิจารณาใช้งานตามความเหมาะสมได้อยู่แล้ว ซึ่งก็มีคนเข้ามาโต้ตอบทันทีว่า สจล. เป็นของเราทุกคนไม่ใช้ของใครคนใดคนหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ประเด็นถกเถียงเรื่องการโยกย้ายคณะเทคโนโลยีการเกษตร ไปอยู่ จ.สุพรรณบุรี คงไม่จบลงง่าย ๆ อย่างแน่นอน และต้องดูว่า บทสรุปสุดท้ายจะเป็นเช่นไร







ภาพและข้อมูลจาก คุณ อาม่าไม่รู้ว่าเล่นพันทิพย์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก ประชาคมเกษตรเจ้าคุณ, เฟซบุ๊ก บุนนาค Bunnag, เพจเฟซบุ๊ก PR Kmitl, reg.kmitl.ac.th