
เครือข่ายปฏิรูปรับน้อง จี้ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สอบสวนกรณี นักศึกษาดุริยางค์ฯ ข่มขู่ฆ่าอาจารย์ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกรณีรับน้อง จี้ถาม เหตุใดจึงสร้างความรุนแรงเป็นระบบเช่นนี้ได้
กลายเป็นประเด็นระอุขึ้นมาอีกครั้งสำหรับเรื่องราวของระบบรับน้องของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เมื่อล่าสุด (26 สิงหาคม 2558) อาจารย์ท่านหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้วิพากษ์วิจารณ์การรับน้องของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ซึ่งเป็นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยดังกล่าว โดยตามประเพณีแล้ววิทยาลัยดุริยางค์ฯ จะต้องให้น้อง ๆ ปี 1 ผู้ชายทุกคนตัดสกินเฮดเบอร์ 1
โดยทางอาจารย์คนดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นต่อประเพณีรับน้องของวิทยาลัยดุริยางค์ฯ ว่า การที่ให้เด็กโกนหัว และใส่เสื้อคล้าย ๆ กัน มีการห้อยฟิวเจอร์บอร์ดรูปเปียโน และเมื่อตกเย็นก็ต้องทำตามคำสั่งรุ่นพี่ นี่เหรอปัญญาชน คนที่เรียกตัวเองว่าศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์ ในทางกลับกัน การกระทำดังกล่าวกลับเป็นการกดทับความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เด็กไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้คิด แต่กลับกลายเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ทำตาม และ "เชื่อง"
สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังนี้


และเมื่อข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวดุริยางค์ฯ เป็นอย่างมาก ซึ่งได้พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นตอบโต้อย่างรุนแรง




อย่างไรก็ดีได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าประเพณีการโกนศีรษะของน้องใหม่นั้น ก็เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเด็กดุริยางค์ฯ เวลาไปไหน ทำอะไรรุ่นพี่จะได้รู้ว่าคนนี้คือรุ่นน้องดุริยางค์ฯ จะได้ช่วยเหลือกันได้ และอีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นหนึ่งในพิธีการที่นักศึกษาใหม่จะต้องเตรียมตัวก่อนเข้าพิธีครอบครูของคณะ



นอกจากนี้ ทางเพจ Drama-addict ก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ในการปะทะกันของความคิดของฝ่ายสนับสนุน กับฝ่ายต่อต้านระบบโซตัสนั้น ควรจะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแม้กระทั่งจะเถียงกันก็ได้ แต่การที่นักศึกษาบางส่วนออกมาข่มขู่ว่า จะไปทำร้าย หรือแม้กระทั่งข่มขืนอาจารย์เพราะความคิดไม่ตรงกันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คนมีการศึกษาพึงกระทำ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 มีรายงานว่า เครือข่ายปฏิรูปรับน้องประชุมเชียร์เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกจดหมายเปิดผนึกถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง เรียกร้องให้ดำเนินการสอบสวนและเอาผิดการข่มขู่คุกคามอาจารย์ที่วิพากษ์วิจารณ์ระบบ SOTUS ในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และปกป้องเสรีภาพทางวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา
ทั้งนี้ เนื้อความในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า จากกรณี อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามท่านหนึ่ง โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ระบบรับน้อง SOTUS ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ จนนำมาสู่เหตุการข่มขู่ทั้ งในทางสื่อโซเชียลมีเดีย และการรวมกลุ่มไปคุกคามถึ งสถานที่ทำงาน มีการแสดงภาพอาวุธมีด, ปืน, โลงศพ ประกอบถ้อยคำข่มขู่ทำร้ายร่ างกายรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิ ตจำนวนมาก มีแม้กระทั่งการคุ กคามทางเพศในลักษณะรุมข่มขืน
ที่น่าวิตกที่สุดคือ ทั้งหมดไม่ใช่การข่มขู่คุกคามด้ วยการลุแก่โทสะส่วนบุคคล แต่คือการกระทำอย่างเป็นระบบหมู ่คณะ แม้แต่ระดับอาจารย์หัวหน้ าสาขาดุริยางคศิลป์ตะวันตก ก็โพสต์แสดงข้อความต้องการทำร้ ายร่างกายอย่างชัดเจน นำมาสู่การเป็นข่าวอื้อฉาวในสื่ อต่างๆ ในพฤติกรรมอันป่าเถื่อนรวมหมู่ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและใม่ สนใจสายตาสังคม
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นความรับผิ ดชอบโดยตรงของมหาวิทยาลั ยมหาสารคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอธิการบดี และคณบดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการดำเนินการสอบสวนเอาผิดผู้ มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงตรวจสอบระบบรับน้อง SOTUS ที่ใช้ในวิทยาลัยดังกล่าว เพื่อตอบคำถามสังคมว่า เหตุใดจึงผลิตการสร้างความรุ นแรงอย่างเป็นระบบเช่นนี้ได้ โดยไม่สนใจต่อสายตาสังคมหรื อกฎหมายบ้านเมืองแม้แต่น้อยสถาบันอุดมศึกษา คือสถานที่แห่งปัญญา กระบวนการสำคัญในการพัฒนาทางวิ ชาการคือการแสดงความคิดเห็นวิ พากษ์วิจารณ์ ถกเถียงแลกเปลี่ยนอย่างมีอารยะ ภายใต้หลักการเสรีภาพทางวิชาการเราจึงขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลั ยมหาสารคาม ปกป้องบรรยากาศเสรีภาพทางวิ ชาการของบุคลากรทุกคน ให้พ้นจากอำนาจเถื่อนทุกชนิด หาไม่แล้ว หากคนในสถาบันต้องเงียบเสียงให้ ต่อความรุนแรงของระบบ SOTUS ความงอกงามทางวิชาการจะเกิดขึ้ นได้อย่างไร ?
"ขอเรียกร้องให้สั งคมไทยและประชาคมวิชาการทั่ วประเทศ ร่วมกันปกป้องสวัสดิภาพ และให้กำลังใจต่ออาจารย์ผู้ที่ กล้าลุกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ SOTUS นี้ เพื่อที่อนาคต เราจะไม่ต้องยอมเงียบเสียง พ่ายแพ้ต่อประเพณีอันผลิตซ้ำความรุนแรงทางอำนาจเช่นนี้ต่ อไป" ตอนท้ายของจดหมาย เปิดผนึก ระบุ
ทั้งนี้ เนื้อความในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า จากกรณี อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามท่านหนึ่ง โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ระบบรับน้อง SOTUS ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ จนนำมาสู่เหตุการข่มขู่ทั้
ที่น่าวิตกที่สุดคือ ทั้งหมดไม่ใช่การข่มขู่คุกคามด้
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นความรับผิ
"ขอเรียกร้องให้สั
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict, เฟซบุ๊ก ANTI SOTUS, เฟซบุ๊ก โหดสัส V2, เฟซบุ๊ก ANTI SOTUS