โผล่อีกเคส ! ดร.หนีทุน ผู้ค้ำเล่าเศร้า ถูกเพื่อนครูคนสนิทวอนเซ็นค้ำ สุดท้ายต้องมาใช้หนี้แทน เผยมีเหยื่อ 3 ราย ใช้หนี้ 4 ล้านกว่า ต้องผ่อนจ่าย หากขาด 2 งวดโดนสั่งล้มละลาย
เป็นข่าวครึกโครมที่สังคมให้ความสนใจ กรณี ดลฤดี จำลองราษฎร์ ทันตแพทย์สาวหนีทุน จนทำให้ผู้ค้ำประกันต้องใช้หนี้แทน [อ่านข่าว หมอฟันหนีทุน คลิก] ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เป็นกรณีเดียวที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาผู้ค้ำต้องใช้หนี้แทนผู้หนีทุนมากมาย
เฉกเช่นเรื่องราวของ อ.จันทิรา วิเศษณัฐ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยต่อรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ว่า เธอเองก็เป็นผู้ค้ำประกันที่ถูกเบี้ยวทุนเช่นกัน และที่น่าเจ็บใจคือ.. คนที่เธอเซ็นค้ำประกันให้คือเพื่อนสนิทของเธอ
โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2539 อ.จันทิรา เล่าว่า มีอาจารย์สาวท่านหนึ่งที่สอนอยู่ที่เดียวกันได้มาขอร้องให้เซ็นค้ำประกันทุนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา โดนสาเหตุที่เซ็นค้ำคืออาจารย์สาวเป็นเพื่อนและเห็นว่าเป็นสิ่งที่นำมาพัฒนาประเทศ ซึ่งการเซ็นค้ำในครั้งนี้เพื่อความสบายใจก็ไม่ได้บอกครอบครัว โดยตนเซ็นร่วมกับ อาจารย์ผู้ชายอีกมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และนายทหารสามีของเพื่อนอีกท่านหนึ่ง
อ.จันทิรา กล่าวต่อว่า อาจารย์คนดังกล่าวใช้เวลาเรียนตั้งแต่ปี 2539 จนถึง 2546 โดยในช่วงดังกล่าวมีการขยายเวลาเรียนถึง 3 ครั้ง ตอนนั้นยอดหนี้ประมาณ 5 ล้านบาท และเมื่อเรียนจบอาจารย์คนดังกล่าวก็แต่งงานกับสามีชาวสหรัฐฯ ดูมีฐานะ เลยคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาในการใช้หนี้
แต่เมื่อปี 2548 ก็มีหมายศาลจากศาลปกครองกลาง ฟ้องร้อง อ.จันทริา และผู้ค้ำทั้งหมด โดยให้ชดใช้เงิน 14 ล้าน ทั้งค่าปรับและดอกเบี้ย ทั้งนี้ อ.จันทิรา เผยว่า อาจารย์สาวคนดังกล่าวได้ลาออกจากราชการตั้งแต่ปี 2546 แต่ไม่ได้แจ้งให้ผู้ค้ำรับทราบ ซึ่งตนก็ได้ติดต่อไปยังอาจารย์สาว และได้คำตอบว่า เดี๋ยวจะใช้หนี้ให้ โดยให้เบอร์ทนายและบอกให้ตนไม่ต้องไปศาล จุดนั้นตนก็เบาใจว่าอาจารย์สาวจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้
จนกระทั่งเมื่อปี 2558 ศาลได้นัด อ.จันทิรา และผู้ค้ำทังหมดให้มารับสภาพหนี้เฉพาะเงินต้น 4 ล้านกว่าบาท หารกัน 3 คน เป็นเงิน 1.4 ล้านบาท โดยศาลให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1.4 หมื่นบาท หากขาดผ่อน 2 งวด ก็จะถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
อย่างไรก็ดี อ.จันทิรา ทราบมาว่า อาจารย์สาวคนดังกล่าวได้ใช้หนี้ตั้งแต่ปี 2550-2553 ไปเพียง 6 ล้านบาท จาก 14 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ใช้หนี้เป็นเงินดอกเบี้ยและค่าปรับ ยังไม่ใช่เงินต้น และทราบมาว่า อาจารย์สาวได้ไปหย่ากับสามีที่สหรัฐฯ ขายบ้านที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครทราบว่าเธอไปอยู่ไหนและประกอบอาชีพอะไร รู้เพียงว่าบ้านมีฐานะและมีลูกสาวเป็นหมอ แต่เบอร์ที่เคยให้ติดต่อไว้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว
นอกจากนี้ อ.จันทิรา ยังกล่าวว่า เธอก็ไม่ได้มีเงินมากมาย เพราะเป็นอาจารย์รับราชการ ตอนนี้มีความทุกข์มาก ๆ ตอนที่เพื่อนได้ทุนก็ดีใจที่เพื่อนจะกลับมาพัฒนาประเทศชาติ ไม่คิดว่าจะต้องมาใช้หนี้แทนเพื่อน เงินเป็นล้านมันเยอะ (น้ำตาคลอ)
เกาะติดข่าว หมอฟันหนีทุน ทั้งหมดคลิกเลย
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้