ดร.จักษ์ ประณามคนหนีทุน โกงยิ่งกว่าโกง..โกงตั้งแต่ประเทศยันวงศ์ตระกูล

            ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ประณามคนหนีทุน เป็นการโกงที่มากกว่าการโกง โกงทั้งประเทศ ประชาชน ตลอดจนญาติพี่น้องทั้งวงศ์ตระกูล

            จากกรณีฉาวสนั่นโซเชียล อดีตทันตแพทย์สาวหนีใช้ทุนเรียนของรัฐบาล โดยอ้างว่าไม่มีเงิน เดือดร้อนจนผู้ค้ำประกันทั้ง 4 รายต้องชดใช้เงินค่าปรับแทนร่วม 8 ล้านบาท ขณะที่ชาวเน็ตต่างพร้อมใจกันขุดประวัติออกมาแฉ เผยให้เห็นว่าปัจจุบันอดีตทันตแพทย์สาวรายดังกล่าวมีชีวิตที่หรูหรา และมีรายได้สูงจนน่าจะเพียงพอสำหรับการใช้หนี้ด้วยตัวเอง พร้อมช่วยกันกดดันให้เจ้าตัวออกมาแสดงความรับผิดชอบ จนเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ขณะนี้นั้น [อ่านข่าว ทันตแพทย์หนีใช้ทุน คลิก]

            เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2559 รองศาสตราจารย์ ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว "ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร" ระบุว่า ตนก็เคยเป็นนักเรียนทุน ทั้งทุนให้เปล่าและทุนรัฐบาล แต่ตนก็ใช้ทุนในทุกกรณี แม้บางทุนจะทำงานใช้ทุนไม่ครบตามเวลา แต่ก็ได้ชำระค่าปรับเป็นเงินทั้งหมดแล้ว เพราะแน่นอนว่าการไม่ชำระทุนไม่มีเหตุผลใด ๆ มาอ้าง มาปฏิเสธความรับผิดชอบ ยกเว้น ตาย เสียสติ หรือพิการจนทำงานไม่ได้


            อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักเรียนทุนจำนวนไม่น้อยที่รับทุนอันเกิดจากภาษีของประชาชน แล้วบิดพลิ้วไม่กลับมาทำงานชดใช้ทุน บางคนไม่ยอมกลับมาทำงานในไทย รอจนคดีหมดอายุความ ไม่ก็ปล่อยให้ตกเป็นภาระของผู้ค้ำประกันต้องชดใช้แทน ดังนั้นภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาครัฐจึงต้องเร่งหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เช่น การประกาศชื่อนักเรียนทุนที่หนีทุน ไม่ยอมทำงานชดใช้ทุนและ/หรือไม่ยอมชำระเบี้ยปรับ โดยทำเป็นประกาศแห่งชาติประจำทุกปี เพื่อให้หน่วยงานและเจ้าของภาษีทุกคนได้ทราบถึงรายนามคนที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่สามารถแยกแยะชั่วดีเหล่านี้


            รองศาสตราจารย์ ดร.จักษ์ ยังประณามว่า คนที่รับทุนแล้วหนีทุน เป็นการโกงที่มากกว่าการโกง

            1. โกงภาษีประชาชน แทนที่จะได้นำเงินภาษีไปพัฒนาในเรื่องอื่นให้เกิดประโยชน์
            2. โกงโอกาสของคนอื่น ที่เป็นคนดีกว่า ที่เขาควรจะได้รับทุน แล้วกลับมาช่วยประชาชนผู้เสียภาษี
            3. โกงผู้มีพระคุณที่เข้าทำสัญญาค้ำประกันให้ผู้รับทุน จนผู้รับทุนได้มีโอกาสศึกษาต่อ
            4. โกงประเทศชาติที่ต้องเสียบุคลากรในสาขาที่ส่งไปศึกษา
            5. โกงพี่น้องวงศ์ตระกูลของตัวผู้รับทุน เพราะการหนีทุนของผู้รับทุนทำให้คนในวงศ์ตระกูลของผู้รับทุนถูกตำหนิจากสังคม
            6. โกงพ่อแม่ของตัวเอง ที่สั่งสอนให้เป็นคนดีไม่ได้ เพราะความเลวส่วนตัวของผู้รับทุน
            7. โกงลูกโกงสามีของตน ที่ลูกต้องมีแม่ที่สังคมตราหน้าว่าเป็นคนเลว โกงสามีที่สามีต้องมีภรรยาเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นต้นแบบที่เลวร้ายของครอบครัว




ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร