เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก องค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ชี้แจงกรณีโพสต์ภาพนิสิตสวมหมวกกระดาษ แค่อยากให้ตระหนักถึงความสำคัญของการสอบ และให้มองเป็นเรื่องขำ ๆ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 หลังจากในสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์รูปภาพการนั่งสอบของนิสิต มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่บนศีรษะมีกระดาษคล้ายหมวกสวมใส่ไว้ เพื่อเป็นการป้องกันการลอกข้อสอบ โดยภาพดังกล่าวถูกระบุว่า แชร์มาจาก เฟซบุ๊ก องค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และยังมีการระบุถึงการเตรียมตัวของนิสิตก่อนเข้าห้องสอบ ที่ต้องมีการตัดกระดาษตามแบบ และประดิษฐ์ไว้เป็นหมวกเพื่อป้องกันการลอกข้อสอบ โดยไม่ได้ระบุว่า เป็นการสอบของนิสิตคณะ ชั้นปี หรือรายวิชาใดนั้น
ในเวลาต่อมา เมื่อภาพดังกล่าวถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ได้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวจำนวนมากทั้งแง่บวกและลบ บ้างก็ว่า เป็นไอเดียที่ดี เพื่อนิสิต-นักศึกษา จะลอกข้อสอบกันไม่ได้ บ้างก็ว่า ไม่สมควร เนื่องจากอาจส่งผลให้นิสิต-นักศึกษา เกิดความรำคาญ หรือบางรายก็ว่า เป็นการดูถูกคุณภาพของนิสิต
จากนั้น เฟซบุ๊ก องค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ได้มีการลบรูปภาพดังกล่าวออกไป พร้อมกับโพสต์ข้อความเพื่อชี้แจงว่า "ทางองค์การบริหาร องค์การนิสิต ต้องขออภัยถึงภาพการสอบดังกล่าวเกี่ยวกับการสอบด้วยนะครับ เนื่องจากมีความเห็นออกไปในหลายฝ่าย ไม่ใช่จุดประสงค์ของการนำเสนอภาพดังกล่าวที่ตั้งใจไว้ ทางองค์การบริหาร องค์การนิสิต จึงขอลบภาพดังกล่าวออกครับ"
นอกจากนี้ ยังมีข้อความเพิ่มเติมว่า "จากภาพนะครับ ด้วยขนาดห้องที่เล็ก และมีผู้สอบจำนวนมาก ทำให้มีมาตรการที่นำมาใช้ในการสอบ ไม่ได้มีเจตนาหรือจุดประสงค์มุ่งเน้นไปที่คุณภาพของผู้เรียนครับ และด้วยเจตนาต้องการเพียงให้นิสิตเห็นภาพและความสำคัญของการสอบเท่านั้น"
ซึ่งในเวลาไม่นานทางแอดมินได้มีการโพสต์ข้อความอีกครั้ง โดยระบุว่า "ต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความคิดไปในหลายฝ่ายนะครับ คือเจตนาต้องการให้มองเป็นเรื่องขำ ๆ ระหว่างช่วงสอบน่ะครับ"
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมาก ได้เข้ามาแสดงความเห็นต่อจากคำชี้แจงดังกล่าว โดยส่วนใหญ่ ระบุว่า เรื่องการโพสต์ภาพเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่คนในสังคมออนไลน์บางประเภทกลับคิดมาก และทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเอง แต่ก็ยังมีบางส่วนมองว่า การกระทำดังกล่าว เป็นเรื่องน่าอาย และไม่เหมาะสม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก