เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ผู้ผลิตชุดนักเรียน ยื่นขอขึ้นราคา เหตุได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และไม่ได้ปรับราคามาหลายปี ด้านกรมการค้าภายใน มั่นใจ ไม่กระทบผู้บริโภค
เมื่อวานนี้ (17 เมษายน) น.ส.วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตชุดนักเรียน 1 ราย ได้ยื่นเรื่องขอปรับราคาชุดนักเรียนเข้ามา โดยให้เหตุผลว่าได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน อีกทั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการขึ้นราคามานานหลายปี อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะพิจารณาเหตุผลอีกครั้งว่า สมควรปรับขึ้นหรือไม่และขึ้นราคาเท่าไร แต่ยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำมีผลต่อต้นทุนการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงชุดนักเรียนสูงขึ้น
โดยสัปดาห์หน้าจะเรียกผู้ประกอบการที่ได้ยื่นหนังสือขอปรับราคาเข้าชี้แจงรายละเอียด และเหตุผลการขอปรับราคา แต่การปรับขึ้นไม่น่าจะกระทบมากนัก เพราะกระทรวงศึกษาธิการได้มีระบบการจัดซื้อจัดจ้างที่สมเหตุสมผลที่จะไม่กระทบต่อภาระผู้ปกครอง ส่วนสินค้าชนิดอื่นยังไม่มีการยื่นขอปรับราคาและส่วนใหญ่ยังเป็นการทำการค้าแบบแข่งขันราคา
น.ส.วิบูลลักษณ์ กล่าวอีกว่า จากการศึกษาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงนั้น พบว่า อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ผู้ประกอบการด้านสิ่งทอและเสื้อผ้า รวมถึงชุดนักเรียน เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงตามไปด้วย ซึ่งเห็นว่าหากดูจากโครงสร้างต้นทุนแล้ว มีเหตุสมควร ก็สามารถปรับขึ้นราคาได้ ทั้งนี้ หากผู้ผลิตชุดนักเรียนได้รับอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาจริง ก็มั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อผู้บริโภค เพราะจะเป็นการปรับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า การสอบถามร้านจำหน่ายชุดนักเรียนระบุว่า ขณะนี้การซื้อขายชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนยังมีน้อย เพราะยังไม่เข้าใกล้ช่วงเปิดเทอมและเพิ่งผ่านเทศกาลสงกรานต์มา แต่คาดว่ากำลังซื้อจะกลับมาต้นเดือนพฤษภาคม หรือก่อนเปิดภาคเรียน 1 สัปดาห์ โดยยอมรับว่า การแข่งขันของชุดนักเรียนยังสูง และมีการจัดรายการส่งเสริมการขายของค้าปลีกที่เน้นเรื่องราคา ทำให้ชุดนักเรียนไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้ ดังนั้นหากมีการปรับราคาจริงก็ไม่น่าเกิน 3-5%
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
