








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Assumption College โรงเรียนอัสสัมชัญ (บางรัก)
คณะครู-นักเรียน รร.อัสสัมชัญ นัดประท้วงผู้บริหาร หลังมีมติควบรวม แผนกประถม สาทร กับ แผนกมัธยม บางรัก ชี้เผด็จการ ทำงานไม่โปร่งใส จี้ ผอ. ลาออก ระดมศิษย์เก่ามาช่วยด้วย
กลายเป็นศึกภายในที่บานปลายมาตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากมีข่าวว่าทางผู้บริหารระดับสูงของมูลนิธิเซนต์คาเบรียล มีมติควบรวมโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ที่อยู่ซอยเซนต์หลุยส์ ถนนสาทร กับโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกมัธยม ที่อยู่บางรัก เนื่องจากทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อวิชาชีพครู รวมถึงสร้างความกังวลให้กับบรรดานักเรียน และผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังมีข่าวการบังคับให้ครูเซ็นใบลาออก แลกกับค่าชดเชย รวมถึงการขายที่ดินของโรงเรียน และการไม่ปรับขึ้นเงินเดือนครู จนนำไปสู่ประเด็นร้อนที่ถูกโพสต์ลงมากมายในโลกออนไลน์นั้น
ล่าสุดวันนี้ (25 มกราคม) เว็บไซต์ของโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ประกาศว่า ทางโรงเรียนอัสสัมชัญได้ประกาศปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2556 เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อโรงเรียน วางแผน และนัดหมายจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย ภายในบริเวณโรงเรียนจนอาจถึงขั้นที่โรงเรียนไม่สามารถดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียนได้ ตลอดจนความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของสถาบัน จึงขอประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษ ประกาศ ณ 25 มกราคม 56 ลงชื่อ ภราดาอานันท์ ปรีชาวุฒิ ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญ
จากนั้นในช่วงสาย คณาจารย์และนักเรียนที่ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ ภราดาอานันท์ ปรีชาวุฒิ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับเตรียมระดมศิษย์เก่ามาร่วมชุมนุมต่อต้านด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีข่าวการประกาศรวมตัวประท้วงของคณะครู ผู้ปกครอง รวมถึงศิษย์เก่าทั่วประเทศในวันนี้ (25 มกราคม) ที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก เวลา 11.00 น. ซึ่งแน่นอนว่า สร้างความปั่นป่วนเป็นอย่างมาก ตามมาด้วยคำถามที่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนชายล้วนที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศ และมีอายุ 120 กว่าปีแห่งนี้...
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหารของโรงเรียนอัสสัมชัญได้ออกมาชี้แจงแล้ว ทว่าคำอธิบายนั้นอาจยังคลุมเครือ และไม่ตรงใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยทาง ภราดาอานันท์ ปรีชาวุฒิ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ยืนยันว่า ไม่มีการขายโรงเรียน หรือโอนใบอนุญาตไปให้ผู้อื่นเด็ดขาด เพราะโรงเรียนแห่งนี้ดำเนินการมากว่า 127 ปี หากแต่เมื่อมี พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ และ พ.ร.บ. โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 กำหนดให้โรงเรียนเอกชนทุกโรงเรียนเป็นนิติบุคคล ทำให้สภาพการบริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ เป็นสองนิติบุคคล ดังนั้น ในปี 2555 ที่ผ่านมา คณะกรรมการมูลนิธิในฐานะผู้รับใบอนุญาตของทั้งสองโรงเรียนมีมติให้รวมโรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม เป็นโรงเรียนอัสสัมชัญเพียงแห่งเดียว เพื่อความเป็นเอกภาพ และคงลักษณ์ของโรงเรียน แต่ทั้งนี้ต้องรอการพิจารณาและอนุมัติจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ ภายใน 120 วัน คาดว่าราวเดือนมิถุนายน 2556 จึงจะทราบผลว่าจะได้ควบรวมกันหรือไม่
ภราดาอานันท์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น จะไม่มีการเลิกจ้างครูเกิดขึ้นแน่นอน ครูทุกคนจะได้รับการดูแลจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และได้รับการบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนอัสสัมชัญทันที หากสมัครใจโอนเข้าเป็นครูของโรงเรียนอัสสัมชัญ หรือหลังจากการควบรวมมีผลตามกฎหมายแล้ว รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หรือการนับอายุการปฏิบัติงาน ยังคงนับต่อเนื่องตามกฎระเบียบของกระทรวง ศึกษาธิการ
นอกจากประเด็นการควบรวมโรงเรียนอัสสัมชัญ 2 แห่งแล้ว ยังมีประเด็นการปรับขึ้นเงินเดือนที่ทาง ศ.ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน ในฐานะนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ อดีตศิษย์เก่าอัสสัมชัญ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีประกาศมูลนิธิ เรื่องปรับขึ้นเงินเดือนครูเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ยังไม่มีการปรับเงินเดือนให้ครู ทั้งที่โรงเรียนในเครือข่ายมูลนิธิ 10 กว่าแห่ง ปรับเงินเดือนให้ครู ยกเว้นแต่โรงเรียนอัสสัมชัญ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภราดาอานันท์ กล่าวว่า ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ทางโรงเรียนจะต้องปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่บุคลากรทางการศึกษา ระดับปริญญาตรี ให้เพิ่มเป็น 11,680 บาท แต่ครู 450 คน ของโรงเรียนอัสสัมชัญ ไม่มีใครได้เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท ดังนั้น จึงไม่ต้องปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่ครูแต่อย่างใด ทว่าทางด้าน คุณครูมัธยมศึกษา รร.อัสสัมชัญ รายหนึ่ง กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ครูอัสสัมชัญบางคนก็เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท แม้จะรวมสวัสดิการ และค่าครองชีพต่าง ๆ แล้วก็ตาม ซึ่งนอกจากจะไม่ปรับขึ้น ในบางปียังมีการปรับลดอีกด้วย
จากประเด็นปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานี้ นำมาสู่การรวมตัวประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการ ซึ่งก็ต้องคอยจับตาดูกันต่อไปว่า ศึกภายใต้หลังคาอัสสัมชัญ จะจบลงเช่นใด
สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มกู้อัสสัมชัญ มีเนื้อหาดังนี้
แถลงการณ์กลุ่มกู้อัสสัมชัญ ฉบับที่ 2
วันที่ 25 มกราคม 2556








1. ให้ ภ.อานันท์ ปรีชาวุฒิ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญโดยทันที เพื่อยุติวิกฤตความขัดแย้ง ไม่ให้นักเรียนและครูลาออกไปมากกว่านี้
2. ให้แต่งตั้งภราดาที่เคยเป็นอธิการโรงเรียนอัสสัมชัญมาก่อนมาเป็นอธิการโรงเรียนอัสสัมชัญ เพื่อกอบกู้ความยิ่งใหญ่ของอัสสัมชัญกลับคืนมา
3. ให้แก้ไขการเลือกกรรมการบริหารสถานศึกษา ให้มีความเป็นธรรมาภิบาล สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของอธิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ให้เอาเงินของโรงเรียนอัสสัมชัญที่ใช้ไปกับการสร้างโครงการพระราม 2 คืนให้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ เพราะเป็นคนละโรงเรียน


ขณะเดียวกัน ในโลกอินเทอร์เน็ตก็ได้มีการแชร์ภาพเหตุผลที่ทำไมต้องกู้อัสสัมชัญ (ตอนนี้)? ดังต่อไปนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


