เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากพูดถึงกรุงปารีส เมืองหลวงที่สวยสดงดงามของฝรั่งเศส สาว ๆ หลายคนคงนึกถึงแฟชั่น เพราะแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และน้ำหอมชื่อดังที่เรารู้จัก มาจากประเทศฝรั่งเศสด้วยกันทั้งนั้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า จากการเปิดเผยของ QS สถาบันสำรวจและจัดอันดับคุณภาพด้านการศึกษาชื่อดัง พบว่า ปารีสเป็นเมืองที่เหมาะสมแก่การเป็นนักเรียน หรือ เมืองที่น่าเรียนมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน
โดยการจัดอันดับดังกล่าวใช้การสำรวจและเก็บข้อมูล ก่อนนำมาพิจารณาผ่าน 4 หลักเกณฑ์ ประกอบด้วย คุณภาพของสถานศึกษา คุณภาพของการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การต้อนรับนักเรียนที่มีความหลากหลาย และค่าใช้จ่ายในการเรียน
สำหรับเหตุผลที่ฝรั่งเศสคว้าตำแหน่งเมืองที่เหมาะแก่การเรียนมากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงปารีส พบว่า มีราคาค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยของประเทศยอดนิยมในการเรียนต่ออย่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ที่ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแต่ก็มีค่าเทอมที่สูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีหลายเสียงคัดค้านว่า แม้กรุงปารีสจะมีค่าเรียนที่ถูกกว่า แต่ค่าที่อยู่อาศัยกลับมีราคาแพง จึงไม่เหมาะแก่การเรียนหนังสือที่ต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป แต่จากการสำรวจความเห็นกลับพบว่า ทุกคนยอมจ่ายเงินค่าที่พักอาศัยที่ถึงแม้จะมีราคาแพงแต่ได้เห็นความงดงามของกรุงปารีสก็นับว่าคุ้มกันแล้ว
ด้านคุณภาพของสถานศึกษาในกรุงปารีสนั้นนับว่าอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม เพราะเกือบทุกมหาวิทยาลัยในกรุงปารีส จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนเพื่อทำกิจกรรมนอกห้องเรียน เช่น การเล่นกีฬา ฟิตเนส สวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีองค์กรที่ดูแลด้านการบริการนักเรียนนักศึกษาทั้งชาวฝรั่งเศสและชาวต่างชาติโดยเฉพาะอีกด้วย และที่สำคัญ แต่ละชั้นเรียนนั้นก็จะมีจำนวนนักศึกษาอยู่ไม่มาก เนื่องจากหลายมหาวิทยาลัยมีนโยบายจำกัดนักเรียนต่อวิชาอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้นักศึกษาได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง
ส่วนในเรื่องของการใช้ชีวิตของนักศึกษานั้นก็แสนจะสะดวกเพราะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เริ่มจากเรื่องของการเดินทาง กรุงปารีสขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกรวดเร็วอยู่แล้ว เพราะมีรถไฟใต้ดินที่มีหลายสาย จึงสามารถนำพานักเรียนไปได้เกือบทุกที อีกทั้งยังราคาประหยัดด้วย เพราะการเป็นนักเรียนจะทำให้สามารถซื้อบัตรรถไฟใต้ดินในราคาที่ถูกกว่า และหากซื้อแบบเหมาจ่ายรายเดือน หรือรายปี ก็ยิ่งมีราคาที่ถูกลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม นับว่าน่าสนใจมากสำหรับการจัดอันดับในครั้งนี้ เพราะปกติสถาบัน QS จะจัดแค่อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกเท่านั้น แต่การจัดอันดับในลักษณะนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเพราะวัดจากเมืองที่เรียนมากกว่าตัวมหาวิทยาลัยซึ่งแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบัน การเลือกเมืองที่เรียน กลายเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากกว่ามหาวิทยาลัยและหลักสูตร และสำหรับกรุงเทพฯ ของประเทศไทยนั้น คว้าอันดับที่ 49 มาครอง จากการจัดอันดับ 1 ใน 50 เมืองที่ดีที่สุดในการเป็นนักเรียนจากหลายเมืองทั่วโลก
