Thailand Web Stat

ผอ.หอวัง ชี้ครูขาดแคลน ต้นเหตุนักเรียนสอบตกโอเน็ต





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          ผอ.หอวัง ชี้ครูขาดแคลน และไม่มีคุณภาพ จากระบบการสอบบรรจุครูของ ศธ. และโครงการเช่น ครูคืนถิ่น ทำครูสอนไม่ตรงวิชา เป็นต้นเหตุนักเรียนสอบตกโอเน็ต

          เมื่อวันที่ 31 มีนาคม  นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำให้คะแนน โอเน็ตของนักเรียนตกต่ำนั้น เกิดจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่ให้ความสำคัญกับการจัดสรรอัตราครู ปัจจุบันครูที่มีความรู้ความสามารถ เกษียณอายุราชการไปประมาณ 70,000 คน ทำให้โรงเรียนต้องใช้ครูอัตราจ้าง ซึ่งมีความรู้ไม่เพียงพอ อีกทั้งเงินเดือนที่มีข้อจำกัดว่าครูอัตราจ้างจะได้เงินเดือนตายตัว 9,140 บาท ทำให้ไม่มีกำลังใจสอนหนังสือและสอนไปวัน ๆ เท่านั้น

          นายพชรพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบปัญหาระเบียบการสอบบรรจุครูของ ศธ. ไม่เอื้อให้โรงเรียนคัดคนเก่งที่ตรงตามความต้องการมาบรรจุเป็นครูได้ โดยกำหนดให้เขตพื้นที่การศึกษา คัดเลือกจากบัญชีของตัวเองก่อน หากจำนวนรายชื่อที่ขึ้นบัญชีไว้ไม่พอ ให้ไปดึงจากบัญชีของเขตพื้นที่ฯ อื่นมา ขณะที่ครูที่สอบได้ในอันดับแรก ๆ มักจะเลือกไปลงโรงเรียนดังหมดแล้ว เมื่อไม่มีครู จำเป็นต้องไปดึงมาจากผู้ที่สอบได้ในลำดับท้าย ๆ ต้องยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งมาก และบัญชีเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เมื่อมาเป็นครูได้ไม่เกิน 2 ปีจะขอย้ายกลับไปยังภูมิลำเนา

          นายพชรพงศ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ยังมีบางโครงการที่อาจจะส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาครูไม่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น โครงการครูคืนถิ่น ที่เปิดให้ครูขอย้ายกลับภูมิลำเนาได้ ซึ่งหากย้ายครูไม่ตรงตามวิชาเอกที่โรงเรียนต้องการ จะทำให้เกิดปัญหา เช่น ถ้าย้ายครูคหกรรม มาแทนครูคณิตศาสตร์ ก็ไม่สามารถสอนได้อย่างมีคุณภาพ โดยต้องเปิดสอนตามหนังสือ และส่วนตัวยังเห็นด้วยว่าอีกสาเหตุที่ทำให้คะแนนโอเน็ตตกต่ำ เป็นเพราะครูที่สอนจริง ๆ ไม่ใช่คนออกข้อสอบ แต่คนที่ออกข้อสอบกลับเป็นผู้ที่นั่งอ่านตำราแล้วมาออกข้อสอบ จึงไม่ตรงตามเนื้อหาสาระการเรียนรู้จริง ๆ ซึ่งที่จริงแล้วเด็กไทยไม่ได้ด้อยคุณภาพขนาดนั้น เพราะถ้าดูจากการสอบแข่งขันระดับโลก เด็กไทยก็ติดอันดับแทบทุกครั้ง

          ด้านนายองอาจ นัยพัฒน์ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) กล่าวว่า การสอบโอเน็ตของนักเรียนชั้น ม.6 ถือว่าเป็นตัวชี้วัดคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี แต่ปรากฏว่าค่าเฉลี่ยของเด็กไทยเกือบทุกวิชา กลับไม่ถึง 50% โดยเฉพาะวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดยคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 คะแนน จากคะแนนเต็มแต่ละวิชาอยู่ที่ 100 คะแนน จึงมีประเด็นที่น่าคิด 2 ประเด็นว่า

          1. ข้อสอบของ สทศ.ยากเกินไป

          2. คุณภาพการศึกษา การเรียนการสอนของบ้านเราย่ำแย่

          แต่ส่วนตัวคิดว่า ข้อสอบของ สทศ. จะคละกันไประหว่างยากและง่าย คงไม่ยากทุกข้อ ขณะเดียวกันทุกคนต้องยอมรับว่าการจัดการศึกษาของบ้านเรายังมีช่องว่างระหว่างเด็กในเมืองกับเด็กในชนบท ดังนั้น ข้อสอบกลางที่ใช้จึงต้องมีความยากระดับหนึ่ง แต่ช่องว่างของคะแนนที่ออกมา ก็ไม่ควรจะมากขนาดนี้

          ขณะที่ นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร สทศ. กล่าวต่อว่า เรื่องจุดตัดขั้นต่ำนั้น ตนเป็นคนให้นโยบายแก่ สทศ. ตั้งแต่รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร สทศ.ว่า ให้ทำจุดตัดขั้นต่ำที่อิงเกณฑ์หรืออิงวัตถุประสงค์ของหลักสูตรจะดีกว่าอิงคะแนนเฉลี่ย ไม่มีความหมายทางวิชาการเท่าใดนัก เพียงแต่ที่เพิ่งออกมาแถลงข่าว ตนเข้าใจว่าเพิ่งมาคิดคำนวณเสร็จ แต่จากการเทียบเคียงกับผลคะแนนโอเน็ตของปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ต่างกันมากจนมีนัยยะที่สำคัญ เช่น การที่จุดตัดขั้นต้่ำของวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อยู่ที่วิชาละ 25 คะแนน สะท้อนว่า 3 วิชานี้มาตรฐานสูงหรืออีกนัยหนึ่ง คือ ข้อสอบยาก ฉะนั้นถ้าเด็กทำคะแนนผ่านที่ 25 พอว่าความรู้พื้นฐานใช้ได้ ทั้งนี้ จุดตัดควรจะเกิดจากผู้ออกข้อสอบคิดกับครูผู้สอนว่าแต่ละวิชา นักเรียนควรจะได้กี่คะแนน ถึงจะผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ หมายถึงมีความรู้พื้นฐานพอใช้นั่นเอง


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผอ.หอวัง ชี้ครูขาดแคลน ต้นเหตุนักเรียนสอบตกโอเน็ต อัปเดตล่าสุด 1 เมษายน 2555 เวลา 15:11:33
TOP
x close