กู้ กยศ. 2567
คุณสมบัติผู้กู้ กยศ. 2567
กองทุนสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา หรือ กยศ. ให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ใน 2 ลักษณะ ดังนี้
1. เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
- รายได้ครอบครัว ไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี
- ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลาย ปวช. ปวส. อนุปริญญาตรี และปริญญาตรี
- อายุในขณะที่ขอกู้ยืมเงิน เมื่อนับรวมกับระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี และเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 60 ปี
- มีการทำประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ
2. เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลัก ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
- กู้ยืมค่าเล่าเรียน ไม่จำกัดรายได้ของครอบครัว
- กู้ยืมเงินค่าครองชีพ รายได้ของครอบครัวต้องไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี
- ระดับการศึกษา ปวส. อนุปริญญาตรี ปริญญาตรี
- อายุไม่เกิน 30 ปี ในปีการศึกษาที่ยื่นคำขอกู้
- ทำประโยชน์ต่อสังคม และสาธารณะ
สำหรับคุณสมบัติของผู้กู้ กยศ. อื่น ๆ มีดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- ศึกษาในสถานศึกษาที่เข้าร่วมดำเนินงานกับกองทุนเพียงแห่งเดียวในภาคการศึกษาเดียวกัน
- มีผลการเรียนดี
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาใดมาก่อน
- ไม่เป็นผู้ปฏิบัติงาน และรับเงินเดือน หรือค่าจ้างในหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน ในลักษณะเต็มเวลา
- ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับกองทุนเว้นแต่จะได้ชำระหนี้ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ขอกู้ยืมรายใดเคยกู้ยืมเงินกองทุน กยศ. หรือกองทุน กรอ. มาแล้ว แต่ผิดนัดชำระหนี้ และได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความก่อนฟ้องคดี และ/หรือเคยถูกฟ้องร้องดำเนินคดีมาแล้ว ผู้ขอกู้ยืมรายนั้นสามารถกู้ยืมเงินกองทุนต่อไป หากได้ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ หรือชำระหนี้ตามคำพิพากษาจนเสร็จสิ้นแล้ว
เอกสารประกอบการยื่นคำขอกู้ยืมเงิน กยศ.
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- ผู้กู้ยืม
- บิดา มารดา หรือ ผู้ปกครอง
- คู่สมรส (ถ้ามี)
2. หนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูล (ดาวน์โหลดได้จากระบบ DSL หรือเว็บไซต์ กยศ.)
- ผู้กู้ยืม
- บิดา มารดา หรือ ผู้ปกครอง
- คู่สมรส (ถ้ามี)
3. เอกสารการรับรองรายได้ของครอบครัวผู้ขอกู้ยืม แบ่งเป็น 2 กรณี
3.1 กรณีมีรายได้ประจำ ใช้สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วยงาน3.2 กรณีไม่มีรายได้ประจำ หรือ ไม่มีรายได้ ใช้หนังสือรับรองรายได้ของครอบครัวของผู้ขอกู้ยืม ตามแบบฟอร์ม กยศ. 102 พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ/ข้าราชการ/เอกสารอื่นใดรับรองว่าเป็นข้าราชการจากหน่วยงานที่ผู้รับรองรายได้สังกัดอยู่ โดยเจ้าของบัตร ต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วยตนเองเท่านั้น
การดำเนินงานระบบจัดการการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล
1. การเตรียมการให้กู้ยืมเงิน (เป็นขั้นตอนการดำเนินงานของสถานศึกษา)
2. การรายงานสถานภาพการศึกษา
- รายงานโดยสถานศึกษา (เป็นขั้นตอนการดำเนินงานของสถานศึกษา)
- รายงานโดยผู้กู้ยืมเงิน
3. การยื่นคำขอกู้ยืมเงิน และอนุมัติคำขอกู้ยืมเงิน
- นักเรียน / นักศึกษา ยื่นคำขอกู้ยืมเงิน
- สถานศึกษาตรวจสอบคำขอกู้ยืมเงิน
- ระบบหรือกองทุนอนุมัติคำขอกู้ยืมเงิน
4. การจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน
- ผู้กู้ยืมเงินบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนลงนามสัญญากู้ยืมเงิน
- การจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน
5. การเบิกเงินกู้ยืมรายภาคเรียน
- สถานศึกษาบันทึกค่าเล่าเรียนฯ ตามที่ลงทะเบียนจริง
- ผู้กู้ยืมเงินยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม
6. การลงนามกับตัวแทน (สถานศึกษา)
- การลงนามสัญญาและแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมแบบกระดาษ สำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ ผู้กู้ยืมเงินรายเก่าเปลี่ยนระดับ/ย้ายสถานศึกษา/เปลี่ยนหลักสูตร หรือสาขาวิชา
- การลงนามแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมแบบกระดาษ สำหรับผู้กู้ยืมรายเก่าเลื่อนชั้นปี
7. การคืนเงินโดยผู้กู้ยืมเงิน
- กรณียกเลิกสัญญากู้ยืมเงิน
- กรณียกเลิกแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมรายภาคเรียน (แล้วแต่กรณี)
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูคู่มือเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้กู้ กยศ. แบบละเอียดได้ทั้งหมด ที่นี่ www.studentloan.or.th
บทความที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ
- กยศ. เปิดให้กู้ยืมปีการศึกษา 64 ผ่านมือถือ - ป.โท ก็กู้ได้แล้ว ดีเดย์ 1 เม.ย. นี้
- เช็กที่นี่ ดูอย่างไร จ่ายหนี้ กยศ. เกิน 150% สามารถหยุดจ่ายได้ทันที แม้จะเคยผิดนัดชำระหนี้
- ลูกหนี้ กยศ. ได้ลุ้น เตรียมถกคำนวณหนี้ตามกฎใหม่ หนี้ลดกว่า 50% จ่ายเกินอาจได้เงินคืน
- กยศ. ขาดสภาพคล่อง รุ่นพี่ไม่ยอมจ่ายเงินคืน 97,000 ล้าน เสี่ยงไร้เงินให้นักเรียนกู้
- หนี้ กยศ. วางแผนอย่างไรดี ให้มีเงินเหลือพอจ่าย !
ข้อมูลจาก
เว็บไซต์ กยศ.
เฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา