ทุนอุดมศึกษาพัฒนาภาคใต้ปี 54 เหลือที่เรียนอีก 763 ที่นั่ง สกอ.เตรียมหารือรับรอบสอง
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดการประชุมและชี้แจงการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีภูมิลำเนาและเรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ในโครงการทุนอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปีการศึกษา 2554 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จังหวัดสงขลา ก่อนที่นักเรียนจะเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ที่สถาบันอุดมศึกษาที่อนุเคราะห์ที่นั่งเข้าศึกษาในทุกภูมิภาคทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 54 นี้ เพื่อรับทุน รับการยกเว้นค่าเรียน และไปใช้ชีวิตในสถาบันอุดมศึกษา โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองเข้าร่วมประชุมกว่า 1,700 คน
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดเผยหลังจากเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมว่า ในปีนี้มีสถาบันอุดมศึกษา 94 แห่ง อนุเคราะห์ที่นั่งเรียนแก่นักเรียนทุนในโครงการ 1,611 ที่นั่ง สกอ.จึงได้เปิดรับสมัครนักเรียนเข้ารับทุนในโครงการหลังการประกาศผล Admissions แล้ว และมีผู้สมัครมากถึง 2,294 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้สมัครจากจังหวัดนราธิวาส 715 คน /ปัตตานี 745 คน /ยะลา 506 คน /สตูล 235 คน และจาก 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา 93 คน จากการพิจารณาคัดเลือกมีนักเรียนผ่านเกณฑ์การคัดเลือก และมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ 848 คน/ที่นั่ง โดยผู้ผ่านการคัดเลือกในลำดับที่ 1 - 500 จะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษา พร้อมได้รับทุนการศึกษาจาก สกอ. ปีละ 40,000 บาท เพื่อเป็นเงินค่าใช้จ่ายรายเดือน ส่วนลำดับที่ 501 เป็นต้นไป จะได้รับการยกเว้นค่าเรียนตลอดหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษา(ไม่มีค่าใช้จ่าย) สำหรับสาเหตุที่คัดเลือกนักเรียนได้ไม่เต็มจำนวนซึ่งยังเหลืออีก 763 ที่นั่งนั้น เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่นิยมเลือกเรียนในบางสาขาวิชา ของบางสถาบัน ทำให้นักเรียนต้องมาแข่งขันกันเอง ในขณะที่บางสาขาวิชา บางสถาบันมีผู้สมัครเลือกน้อย จนถึงบางแห่งไม่มีผู้สมัครเลย
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากยังมีที่นั่งเรียนที่ได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี เหลืออยู่ 763 ที่นั่ง สกอ.จะหารือกับสถาบันอุดมศึกษา และ ศอ.บต.ในการดำเนินการรับรอบสองให้เต็มในจำนวน เนื่องจากทุนอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปี 5 แล้วและปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของโครงการระยะแรก โดยที่ผ่านมาโครงการได้สนับสนุนให้นักเรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีโอกาสเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแล้วทั้งสิ้น 1,302 คน และเป็นที่น่ายินดีที่ผู้รับทุนรุ่นที่ 1 ในปีการศึกษา 2550 สำเร็จการศึกษาแล้ว ซึ่ง สกอ. และ ศอ.บต.คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บัณฑิตในโครงการกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาภูมิลำเนาของตน เพราะเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย มีศักยภาพและเป็นจุดแข็งของประเทศ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยในประชาคมอาเซียน 2558 ส่วนโครงการนี้จะมีในระยะสองหรือไม่นั้น คงจะต้องมีการระดมทุกภาคส่วนหารือกันต่อไป
ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ผู้สมัครที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ในโครงการฯ จะได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินโครงการ การรับทุน เงื่อนไขในการศึกษา ได้รับการแนะแนวการศึกษา วิธีการปรับตัวในการเรียนและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ซึ่งบางแห่งจะเป็นชุมชนต่างวัฒนธรรม ซึ่งได้มีผู้บริหาร คณาจารย์ นักแนะแนวการศึกษา และผู้ประสานงานจากสถาบันอุดมศึกษากว่า 50 แห่ง ได้เดินทางมายังจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมประชุมด้วย พร้อมรอพบเพื่อทำความเข้าใจกับผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์และผู้ปกครอง ซึ่งในกรณีนักเรียนที่ต้องสอบสัมภาษณ์ของสถาบันมาประชุมครบทุกคน สถาบันจะสอบสัมภาษณ์ไปเลย เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องเดินทาง เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองอีกทางหนึ่ง
นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ขอให้ว่าที่นักเรียนทุนทุกคนปฏิบัติตัวเป็นนักศึกษาที่ดี มุมานะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีระเบียบวินัย มีความกตัญญู จะได้นำความรู้ที่ได้มาช่วยเหลือสังคมและท้องถิ่น พร้อมขอให้ผู้ปกครองเอาใจใส่และให้กำลังใจบุตรหลาน อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งขอขอบคุณสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ที่ได้ร่วมกันกับดำเนินโครงการ ระดมทรัพยากรและหยิบยื่นโอกาสเพื่อการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคไต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยินดีและถือเป็นหน้าที่ที่จะมีส่วนร่วมกับทุกส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด (สงขลา /สตูล /ยะลา /ปัตตานี /นราธิวาส) ในทุกๆ ด้าน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
และ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
