x close

มติ รับตรงร่วม จิตสำนึกหรือสังคมบีบ



มติ "รับตรงร่วม" ทปอ. จิตสำนึกที่คิดได้หรือกระแสสังคมบีบ (ไทยโพสต์)

          เป็นปัญหาสะสมมานานแล้วสำหรับการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (รับตรง) เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมหาวิทยาลัยแข่งกันเปิดรับตรง โดยต่างอ้างว่าเพื่อแย่ง "เด็กเก่ง" เข้าเรียน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยดังที่ต่างคนต่างเปิดรับ ทั้งๆ ที่ทราบกันดีว่าการที่มหาวิทายาลัยต่างเปิดรับตรงเองเป็นการไปเพิ่มภาระให้เด็กต้องวิ่งรอกสอบหลายที่

          และทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งสอบของลูกไม่ต่ำกว่า 1,000/ต่อแห่ง ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของเด็กอีก ผู้ปกครองบางรายเสียค่าใช้จ่ายให้ลูกวิ่งสอบเป็นหลักแสนก็มี พอสอบได้หลายแห่งก็ไม่ไปสละสิทธิ์รอเลือกที่ที่ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย เท่ากับเป็นการไปกั๊กที่คนอื่น นอกจากนั้นยังมีปัญหามหาวิทยาลัยเปิดรับตรงก่อนที่เด็กจะเรียนจบ ม.6 เพราะต้องการตัดหน้ากันเอง ทำให้เด็กทิ้งห้องเรียนเพื่อไปกวดวิชา เพราะกลัวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการไม่ได้

          ขณะที่มหาวิทยาลัยต่างอ้างว่าระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษา ในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่นกลางยังไม่สามารถคัดเด็กได้ตรงตามที่ต้องการ เช่น คณะวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ให้เห็นปัญหาว่าเด็กที่เข้าเรียนผ่านระบบแอดมิชชั่นกลางออกลาออกลางคันเยอะ และติด F วิชาฟิสิกส์เกือบ 100% ส่งผลให้มีเด็กเลือกเรียนคณะวิทย์น้อยลง

          แต่ที่ลึกๆ กว่านั้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ที่มหาวิทยาลัยชมชอบการรับตรงมากกว่าจะเข่าร่วมระบบแอดมิชชั่นก็เพราะเงินรายได้จากค่าสมัครสอบรับตรงนั้นมีจำนวนมหาศาล

          ปัญหาที่ว่ามาทั้งหมดนี้ทำให้นักเรียนและผู้ปกครองออกมาร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแก้ไข จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงกับออกมาเต้น!!!

          เริ่มตั้งแต่เมื่อกลางปี 2553 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นแม่งานที่จะจัดศูนย์รับตรงร่วมของมหาวิทยาลัย โดยการเดินสายสอบถามมหาวิทยาลัยกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 27 แห่ง ที่ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย (ทปอ.มรภ.) อีก 40 แห่ง และกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีก 9 แห่ง ก็ไม่ได้รับการตอบรับ มีการอ้างโน่นอ้างนี่มาโดยตลอด ซึ่งเป็นการปฏิเสธข้อเสนอของ ทปอ.อย่างนิ่มๆ นั่นเอง

          แต่แล้วจู่ๆ เมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ทปอ.มีมติว่าจะจัดการระบบสอบรับตรงร่วมด้วยตนเอง ในมุมหนึ่งเป็นการหักหน้า สกอ. แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งนักเรียนโล่งอกไปพอสมควร

          อะไรเป็นแรงผลักดันให้ ทปอ.ลุกขึ้นมาจัดระบบสอบรับตรงร่วม หรือเกิดจากจิตสำนึกของ ทปอ.เองว่า การรับตรงของแต่ละคณะ แต่ละวิชาของแต่ละมหาวิทยาลัย สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม หรือ ทปอ.ถูกสังคมกดดันอย่างหนัก เพราะมีการเปิดเผยความเดือดร้อนของการวิ่งรอกสอบของเด็ก และค่าใช้จ่ายของการวิ่งรอกสอบว่าเป็นตัวเลขวิ่งไปถึงระดับหลายหมื่นจนถึงแสนบาท

          เพราะถ้าหาก ทปอ.ยังดึงดันที่จะไม่ทำให้เกิดระบบรับตรงกลางต่อไป และปล่อยให้เด็กต้องวิ่งสอบหลายที่  มันก็จะเป็นการฟ้องว่าพฤติกรรมของ ทปอ.นั้น หวังผลต้องการเด็กเก่งหรือต้องการรายได้จากค่าสมัครสอบ

          อย่างไรก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าแค่มติรับลูกของ ทปอ.จะเป็นการตอบโจทย์ของปัญหาทั้งหมด เพราะก็เป็นเพียงมติยังไม่มีแนวทางของระบบที่ชัดเจน แม้จะมีเสียงต่อขณะที่ทางฝั่งมหาวิทยาลัยเองก็มีอิสระที่จะปรับจากหลายมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม

          เมื่อ ทปอ.รับเป็นแม่งานจัดสอบรับตรงร่วมเอง โดยผลัก สกอ.ออกไปนอกวงโคจร สกอ. ที่แม้ว่าจะมีศักดิ์ศรีเป็นผู้กำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษาของประเทศ ก็จำเป็นต้องลดบทบาท ด้วยการหันมาเป็นแม่งานจัดระบบสอบรับตรงกลางกลุ่มหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 แห่ง และกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง

          ถ้าเปรียบเทียบว่า สถาบันอุดมศึกษาเป็นปลายน้ำของระบบการศึกษา ก็จะเห็นได้ว่า มีขยะซุกใต้พรมและโผล่ให้เห็นไม่น้อยหน้าไปกว่าระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นต้นน้ำ และมักจะถูกตราหน้าว่ามีปัญหา และล้าหลังอยู่เสมอ

          การมอบอำนาจและความมีอิสระให้แก่มหาวิทยาลัย ให้อำนาจ สิทธิบางอย่างเบ็ดเสร็จในตัวเอง โดยที่ สกอ.เองก็ไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในอำนาจนั้นๆ ได้ โดยหวังว่าความมีอิสระนี้จะเป็นสิ่งที่เสริมสร้างให้มหาวิทยาลัยไทยเติบโต ก้าวไกล คล่องตัวในการบริหารจัดการ และเติบใหญ่ในวิชาการกลับกลายเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงสังคม    

          และปรากฏการณ์นี้จะคงมีอยู่ต่อไป ตราบใดที่จิตสำนึกรับใช้สังคมที่เป็นจิตสำนึกดั้งเดิมของมหาวิทยาลัยถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ. 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มติ รับตรงร่วม จิตสำนึกหรือสังคมบีบ อัปเดตล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 18:50:55
TOP