คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ภูมิใจนำเสนอ Spook The Musical
Spook The musical : ปีศาจโสภา ละครเพลงครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องในครบรอบ 15 ปี การจัดตั้งคณะ
วันแสดง 26-28 พฤศจิกายน 2553
จำนวน 7 รอบ ( วันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา 15.00 น . รอบสื่อมวลชน )
27 – 28 พฤศจิกายน 2553 (วันละ 2รอบ) บ่าย 14.00 และ ค่ำ 19.00 น.
สถานที่ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ราคาบัตร 300 / 500 บาท
ละคอนเพลง ปีศาจโสภา “Spook The Musical” โครงการนำร่องเพื่อพัฒนาคณะศิลปกรรมศาสตร์ โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ สู่การใช้แผนพัฒนา 15 ปี
เรื่องย่อ : ในช่วงปิดเทอม ลิลลี่ไปอยู่กับที่ทำงานด้านวิจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณป่าหินงาม ดินแดนลี้ลับของอีสาน พ่อมีความสนใจทางด้านธรณีวิทยา ซึ่งตรงข้ามกับลิลลี่ที่ยังต้องการความสนุกและความสบาย เธอเบื่องานของพ่อ และความโดดเดี่ยวของ สถานที่ พ่อจึงสัญญาจะพาลิลลี่ไปดูพิพิธภัณฑ์ของอิสานเพื่อเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม ถือโอกาสสอนให้ลิลลี่ได้เข้าใจรากฐานวัฒนธรรม และความเชื่อบางประการ
ในคืนอันเงียบเหงา ลิลลี่ออกมานอกที่พักและก็ได้เผชิญกับมิตรต่างมิติ 4 คน ได้แก่พ่อมด อัคนียวาทย์ (HAZARD) ปฐพี (WINKEE) วารี (MOUSIE) วายุ (LOONIE) เพื่อนเหล่านี้ชวนลิลลี่ออกไปผจญภัยไขปริศนาที่ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ เมื่อแก้ปริศนาได้ก็จะได้รางวัลเป็น พลอย ทับทิมและเพชร ลิลลี่สามารถแก้ปริศนาปัญหาได้ทุกข้อ แต่เธอกลับปฏิเสธที่จะเอารางวัล มีค่ามาเป็นสมบัติส่วนตน เพราะถูกพ่อและครูสอนไว้ไม่ให้เอาทรัพยากรของแผ่นดิน ความกล้าบวกความฉลาดของลิลลี่ทำความพอใจ ให้กับเพื่อต่างมิติ แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับภูติอีกกลุ่มหนึ่ง คือ นางตานี ผีปอบ และผีร้ายตาโปน กลุ่มนี้ต้องการให้ลิลลี่ทายผิด ก็จะได้ทำร้ายและได้ลิลลี่ไปเป็นเหยื่อ หรือถ้าทายถูกเอารางวัลออกไปก็จะถูกจัดการอยู่ดี พวกภูติเหล่านี้จึงผิดหวังและวางแผนใหม่
พวกภูติสร้างภาพลวงตาเป็นขบวนแห่ผีตาโขนอันงดงาม พร้อมดนตรีที่ไพเราะและดึงดูด มิตรต่างมิติพยายามขัดขวางแต่ถูกภูติ ใช้อำนาจเวทย์มนตร์สะกดลิลลี่ให้ตามไปอย่างเพลิดเพลิน แล้วขบวนแห่ก็กลายเป็นขบวนศพที่มีโลงเป็นรูปของนกหัสดีลิงค์ อันเป็นประเพณีโบราณของอีสาน ขบวนทั้งหมดเคลื่อนเข้าสู่ยมโลกที่มีพญายมและสุวานเป็นผู้ดูแล สุวานผู้ถือบัญชีกรรมดี กรรมชั่วและพญายมสนใจว่าทำไมลิลลี่จึงถูกพามาถึงที่นี่ได้ ในขณะเดียวกันพ่อและชาวบ้านก็ออกตามหาลิลลี่จนมาพบกับมิตรทั้งสี่
พญายมลองทดสอบจิตใจของลิลลี่ให้ลงไปในกระทะทองแดงที่ร้อนแรง ลิลลี่มีใจบริสุทธิ์จึงไม่เห็นความน่ากลัวอย่างที่คนอื่นเห็น เธอไม่หวั่นเกรงอะไร ทันทีที่ลิลลี่ลงไปความร้อนก็จางหายกลายเป็นแสงสว่างสดใส มีดอกไม้โปรยปรายและเสียงดนตรี พญายมชื่นชมว่า พ่อเลี้ยงดูมาดี และตำหนิภูติทั้งหลายว่าไม่รอบคอบนำคน บริสุทธิ์มายมโลกได้อย่างไร
ฉากสุดท้ายเป็นฉากที่พ่อกับลิลลี่เดินดูภาพวาดและสิ่งของต่างๆในพิพิธภัณฑ์ ลิลลี่มีความรู้สึกคุ้นๆกับภาพ สิ่งของและคนที่เดินไปมา ในพิพิธภัณฑ์ ทุกอย่างดูคุ้นเคยคล้ายกับได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้มาจริงๆ ลิลลี่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นความจริงหรือความฝัน
ประเด็นจากละคร “ปีศาจโสภา”
“ปีศาจโสภา”แสดงให้เห็นประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่มนุษย์หยิบฉวยเอามาใช้เป็นประโยชน์ของตนอย่างเห็นแก่ตัว และยังเน้นให้ความสำคัญกับบทบาทของ “ธรรมชาติ” ในชีวิตมนุษย์
มิตรต่างมิติ 4 คน อัคนีวาทย์ ปฐพี วารี วายุ คือตัวแทนของธรรมชาติ ที่อาจเป็นเพื่อนหรือเป็นศัตรูกับมนุษย์ก็ได้ ธรรมชาติมีความ เป็นกลาง มีทั้งประโยชน์และโทษ ถ้ามนุษย์ทำดีกับธรรมชาติ เขาเหล่านี้ก็จะดีด้วย ธรรมชาติดำรงอยู่ด้วยตัวเอง มนุษย์ถูกธรรมชาติ ทดสอบอยู่ตลอดเวลาว่า จะมีความโลภ ความหลง จะเอาเปรียบ เอาประโยชน์จากธรรมชาติอยู่เสมอ มีกี่คนในพวกเราที่ผ่าน “การทดสอบจากธรรมชิติ”
นิทานคติธรรมมักจะเน้นสองปลาย คือ ด้านดีและด้านชั่ว แต่มักจะลืมตรงกลางไป มิตรต่างมิติทั้งสี่หรือธรรมชาติ คือตัวอย่างของความ เป็นกลางนั้น มนุษย์มีโอกาสเลือก มีหน้าที่ตัดสินใจ การตัดสินใจย่อมมีผลลัพธ์ตามมา ในสังคมเรามีคนกลางๆ เหล่านี้ มีเพื่อน มีผู้ใหญ่ มีผู้ตาม มีฝ่ายตรงข้าม คนกลางๆเหล่านี้บางคนโดยไม่ตั้งใจก็ทำให้เราหลงผิดไปได้ การทำตามเพื่อน หรือแรงกดดันของสังคม คนกลางๆเหล่านี้ไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นปุถุชนที่อาจมาลิขิตชีวิตให้กับเราได้
ในขณะเดียวกัน ในสังคมก็มีมิติด้านลบ เป็นมิติของความชั่วร้าย ความเลว ที่ปะปนอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภูติทั้งสามในเรื่อง “ปีศาจโสภา” จัดอยู่ในประเภทนี้ ถ้าไม่มีสิ่งชั่วร้ายไว้เปรียบเทียบ บางทีเราก็อาจไม่รู้ว่ามาตรฐานของความดีคืออะไร
สังคมมีกฎเกณฑ์ของตน พญายมและสุวานเป็นสัญลักษณ์ของกฎเกณฑ์เหล่านี้ สังคมจะตอบแทนและตอบสนองคนดีด้วยรางวัล และจะลงโทษคนที่จิตใจมุ่งร้าย นี่คือความยุติธรรมที่เห็นอยู่ในทุกวัน
ในสังคมยังมีพลังต่างๆทั้งที่เห็นได้และจับต้องไม่ได้ พลังคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์มีอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่ได้ยินหรือเห็นภาพ จนกว่าจะมี(จูนเนอร์)ปรับรับคลื่น มนุษย์ก็เผชิญกับพลังเหล่านี้ตลอดเวลา การจัดการกับพลังทั้งหลายเป็นสาระเตือนใจอีกด้านหนึ่ง ที่ได้จากละครเรื่องนี้
นักแสดงนำเรื่อง Spook The Musical
พลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละครชั้นปีที่ 4
แมท ภีรนีย์ คงไทย นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละครชั้นปีที่ 3
พิมพ์ชนก พลบูรณ์ นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละครชั้นปีที่ 3
