คุรุสภา สั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สาโรจน์ มีไผ่ ครูสวนกุหลาบตุ๋ยเด็ก ในสัปดาห์หน้า หลังถูกโพสต์แฉ ลั่นครูต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
จากกรณีที่เพจ นักเกรียน สวนกุหลาบ ได้มีการแฉพฤติกรรมครูชายรายหนึ่งในโรงเรียน ซึ่งได้โพสต์ภาพและคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มผ่านทางทวิตเตอร์ โดยทางโรงเรียนสวนกุหลาบก็ได้ออกมายอมรับว่าเกิดเรื่องดังกล่าวจริง แต่ยืนยันว่าไม่มีเด็กนักเรียนในโรงเรียนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ขณะที่ตัวครูก็ยอมรับว่าตนได้ซื้อบริการหนุ่มผ่านอินเทอร์เน็ต และในช่วงเย็นวันที่ 10 มิถุนายน 2559 พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ก็ได้เข้าจับกุม นายสาโรจน์ มีไผ่ ครูรายดังกล่าว ในข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ต่อมา นายสาโรจน์ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยล่วงละเมิดเด็กนักเรียนของโรงเรียนสวนกุหลาบ ส่วนภาพที่เห็นเด็กแต่งชุดนักเรียน ชุดพละนั้น เป็นการโพสต์เพื่อต้องการเรียกยอดไลค์ในโลกโซเชียลเฉพาะกลุ่มไม้ป่าเดียวกันเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ และหากพบว่า นายสาโรจน์ พรากผู้เยาวจริงจะมีโทษ ผิด ม.319 เพิ่มด้วย
และในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ที่มี พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีมติเห็นชอบ ตามที่คุรุสภาเสนอข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งจะให้อำนาจเลขาธิการคุรุสภา เสนอ กมว. ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสอบสวนทันที และให้พิจารณาวินิจฉัยสั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไว้ก่อน โดยไม่ต้องรอผลการสืบสวนหรือสอบสวนได้ ในกรณีที่เกิดเหตุปรากฏตามสื่อมวลชนหรือสังคมออนไลน์ว่า ผู้รับใบอนุญาตฯ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือค้าประเวณี มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนหรือนักศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของตนหรือไม่ และกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฯ ถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่
ดร.ชัยยศ กล่าวต่อว่า ทางคุรุสภาได้เสนอร่างระเบียบดังกล่าวให้บอร์ดคุรุสภาพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของจรรยาบรรณวิชาชีพครู ซึ่งที่ผ่านมา เวลามีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ขั้นตอนในการพิจารณาโทษจากคุรุสภาค่อนข้างล่าช้า ทำให้ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ที่กระทำความผิดทางวินัย ได้รับการลงโทษเพิกถอนใบอนุญาตฯ เพียง 200 กว่ารายเท่านั้น ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งต่อไปหากพบมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียล หรือข่าวที่ปรากฏตามสื่อมวลชน เลขาธิการคุรุสภาจะมีอำนาจในการสั่งพักใบอนุญาตฯ ทันทีโดยไม่ต้องรอผลการสอบสวน
และกรณีของนายสาโรจน์ถือเป็นรายแรก หลังจากที่มีคำสั่งพักใบอนุญาตฯ นายสาโรจน์แล้ว คุรุสภาจะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะต้นสังกัด รวมถึงตัวนายสาโรจน์ ให้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ดี การดำเนินการเรื่องนี้ ถือเป็นอำนาจของทางคุรุสภา ที่จะควบคุมเรื่องจรรยาบรรณ ส่วนการดำเนินการทางวินัยข้าราชการนั้น ทางต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการต่อไป
ดร.ชัยยศ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาคุรุสภา ได้ให้ความสำคัญเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพมาโดยตลอด แต่กระบวนการสอบสวนอาจจะมีความล่าช้า ดังนั้น ต่อไปอยากให้สังคมเข้ามาช่วยตรวจสอบ เพราะวิชาชีพครูต้องการครูมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกและวิสัยทัศน์ มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เป็นแบบอย่างที่ดีให้สังคม ฯลฯ ซึ่งหากขาดข้อใดข้อหนึ่งก็ถือว่ามีความผิด
ภาพจาก thaich8
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก