มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และบริษัท ตะวันออกซินเทค จำกัด เปิดตัว "กังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์" เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากความเร็วลมต่ำทดแทนการนำเข้ารายแรกของไทย
ปัจจุบันประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและสนใจในการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องซื้อหาจากต่างประเทศที่นับวันมีราคาแพงขึ้นการผลิตพลังงานทดแทนอื่น ๆ และพลังงานลมเป็นพลังงานทางเลือกหนึ่งในการสนับสนุนพัฒนาให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ เทคโนโลยีกังหันลมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เขตเส้นศูนย์สูตรทำให้ได้รับแรงลมเฉลี่ยทั้งปีต่ำถึงปานกลาง ดังนั้น การที่จะพัฒนาพลังงานลมเพื่อใช้ประโยชน์จึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมกับความเร็วลมที่มีอยู่จึงเป็นที่มาของ "โครงการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์"
ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านี้เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยโดย สวท. ร่วมกับบริษัท ตะวันออกซินเทค จำกัด ดำเนินการวิจัยและพัฒนาขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยจากสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการทั้งหมด เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ และด้วยแต่ละพื้นที่ที่มีความเร็วลมแตกต่างกันจึงเป็นข้อจำกัดของการใช้กังหันแนวตั้งที่อาจไม่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีปริมาณของลมไม่มากและบนอาคารสูง
สำหรับการพัฒนากังหันลมแนวนอนนี้ มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตร ออกแบบและสร้างโดยใช้กังหันลม ESCO Wind Turbine จึงมีคุณสมบัติพิเศษคือการออกแบบเหมาะสมกับสภาพลมในประเทศไทยที่มีความเร็วลมต่ำและลมแปรปรวน สามารถรับลมได้ทุกทิศทุกทาง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับลมจากด้านหน้าและหลัง วัสดุที่ใช้สามารถทนต่อสภาพการกัดกร่อนของกรดและไม่เป็นสนิม (Engineering Composite Polymer) และผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อสัตว์ปีก เช่น นก มีเสียงจากการหมุนของกังหันลมที่ต่ำ น้อยกว่า 20 db/5 meter เหมาะกับโรงเรือนปศุสัตว์ที่ปล่อยลมทิ้งและดาดฟ้าของตึกสูง สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งแนวคิดการออกแบบกังหันลมแนวนอนนี้เน้นการใช้งานบนพื้นราบของอาคารสูงเป็นหลัก โดยใช้พื้นที่ ติดตั้งเป็นแนวยาว สูงจากพื้นอาคาร 2-3 เมตร และวัตถุประสงค์อีกประเด็นหนึ่งคือออกแบบเพื่อนำไปใช้รับลม หมุนเวียนที่ปล่อยทิ้งมาจากโรงเรือนปศุสัตว์ ซึ่งจะสามารถติดตั้ง generator ได้ด้วย
ทั้งนี้ กังหันลมแนวนอนที่ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ติดตั้งง่ายและสามารถขยายผลโดยการส่งเสริมให้มีการใช้ในครัวเรือน ชุมชนขนาดเล็ก ผู้ประกอบการ ครัวเรือน ฟาร์มกังหันลมที่ต้องการใช้พลังงานลม ในการผลิตไฟฟ้าใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี