
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สทศ. ยังไม่ปักใจเชื่อหลังชาวเน็ตออกมาแฉ ครูช่วยเด็กโกงข้อสอบ O-Net ชั้น ป.6 ขณะนี้สั่งตรวจสอบแล้ว ยันหากมีหลักฐานทุจริตชัดเจน จะต้องถูกดำเนินการตามวินัย และอาจถูก สทศ. ฟ้องเพราะทำให้เสียชื่อ
ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องสำหรับระบบการศึกษาไทย ที่หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่านับวันก็ยิ่งถดถอยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจาก คุณ ครูพี่เหยิน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ออกมาบอกเล่าเรื่องราวการทุจริต เมื่อผู้ใหญ่ของโรงเรียนเป็นผู้สนับสนุนให้เด็กโกงข้อสอบ O-Net ป.6 เสียเอง ในหัวข้อ "เมื่อแฟนผมเป็นผู้สังเกตการณ์การสอบ O-Net ป.6 "ผอ. ขอได้ไหมเด็กมันไม่ได้จริง ๆ ผู้ใหญ่เค้าขอมา..."" ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2558 โดยมีเรื่องราว ดังนี้
"วันนี้เป็นวันสอบ O-Net ของเด็ก ๆ ป.6 ครับ ซึ่งแฟนผมก็ลงชื่อเป็นผู้สังเกตการณ์การสอบ O-Net (ของ สทศ. ให้นักศึกษาเป็นผู้สังเกต)
หนึ่งโรงเรียนใช้ผู้สังเกตการณ์ 1 คน แฟนผมก็ทำหน้าที่ปกติ ดูการสอบ การคุมสอบ ช่วงเช้า รอบแรก ผอ. ก็เรียกเข้าพบเพื่อชี้แจงเรื่องปกติ
รอบสอง ก็ตามข้างบนเลยครับ (มีรองอีกสองสามคนนั่งอยู่ด้วย) เป็นข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ "ผอ. ขอได้ไหมเด็กมันไม่ได้จริง ๆ ผู้ใหญ่เค้าขอมา..." นี่คือการขอบอกข้อสอบเด็ก
ดื้อ ๆ เลยครับ ซักข้อสองข้อ แฟนผมก็อึ้งเลยครับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก (ด้วยความที่เค้าเป็นผู้หญิง และรู้สึกกดดันก็เลยต้องเออออตามไป)
แล้วก็มีการบอกข้อสอบเด็กจริงครับ บอกเป็นบางคนนะครับไม่ได้บอกทุกคน อาจจะเฉพาะคนที่มีปัญหา (แฟนบอกว่ามีเด็กบางคนอ่านหนังสือไม่ออกด้วย)
พอเด็กสอบเสร็จ (สอบช่วงเช้า) แฟนเลยลองถามเด็กดู เด็กก็บอกว่า ครูบอก 2-3 ข้อเอง
แฟนก็เลยเขียนบันทึกตามความจริงไป การทำแบบนี้ถือว่าทุจริตไหม ? ตอนนี้คงสอบวิชาตอนบ่ายอยู่ก็ปกติไม่มีอะไร มีแค่วิชาคณิตศาสตร์อย่างเดียวนี่แหละครับ
ป.ล. ขอไม่บอกสถานที่นะครับ เกรงจะมีปัญหา
เพิ่มเติมครับ
หลังจากเด็กสอบเสร็จแล้ว (เมื่อกี๊นี้) แฟนลองเดินดูและถามเด็กด้วย สรุปว่า บอกทุกวิชาครับ วิชาละนิดละหน่อย โอยยยย RIP ชาติไทยครับ
แฟนบอกว่า มี ผอ. เขต สพป. กับรอง มาดูการสอบที่โรงเรียนด้วยแหละ
เพิ่มเติมอีกรอบครับ
หลังจากที่แฟนได้คุยกับเพื่อนที่ไปสังเกตการณ์พร้อมกันหลาย ๆ คน(โรงเรียนอื่น แต่ สพป. เดียวกัน) ก็มีปัญหานี้ครับ โจ๋งครึ่มมากเลย ก็รายงานไปตามจริงกันทุกคนฮะ"
ขณะที่ชาวเน็ตส่วนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทุจริต และหากประเทศเข้าสู่ AEC เมื่อไรเด็กไทยจะลำบากอย่างแน่นอน โดยมีหลายคนที่เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ ยืนยันว่าเด็กที่ยังอ่านหนังสือไม่ออกนั้นมีอยู่จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายแล้ว แต่ก็ยังเขียนชื่อของตัวเองไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ นักศึกษาบางคนก็ยังเขียน-อ่านไม่รู้เรื่อง
และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น คือการที่คุณครูหลายคนละเลยไม่เอาใจใส่เด็ก บางครั้งก็สอนเด็กแค่บางห้อง หรือรู้ทั้งรู้ว่าเด็กอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็ปล่อยให้ผ่านไป ไม่สรรหาวิถีทาง หรือใช้ความพยายามในการอบรมความรู้ให้แก่เด็ก โดยชาวเน็ตชี้ว่าหากอยากทราบว่ามาตรฐานการศึกษาของไทยต่ำขนาดไหน ก็ให้ลองวัดผลดูจากเด็กทั่วประเทศ โดยไม่ใช้การวัดผลเฉพาะโรงเรียนดัง ๆ
หลายฝ่ายยังวิเคราะห์ว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ทุจริตข้อสอบขึ้นเช่นนี้ เป็นเพราะระบบการศึกษาไทยมีการวัดผลจากคะแนนสอบเป็นหลัก ซึ่งใช่ว่าผู้ที่ทำข้อสอบได้คะแนนดีจะเป็นผู้ที่มีความรู้เสมอไป นอกจากนี้ยังส่งผลให้แต่ละโรงเรียนพยายามผลักดันเด็ก ๆ ของตัวเองให้มีคะแนนดี และพยายามทำทุกอย่างไม่ให้มีผู้สอบตกเพื่อผลประเมินของโรงเรียนเอง จึงก่อเกิดเป็นการทุจริตข้างต้น โดยที่ผู้ปกครองบางคนก็ไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าขอให้ลูกของตัวเองสอบผ่านก็พอแล้ว
และการโกงนี้เองที่จะเป็นสิ่งปลูกฝังให้เด็กเกิดความคิดว่า ไม่เป็นไร เป็นการโกงเพื่อโรงเรียน ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของเด็กอย่างแน่นอน ซ้ำร้ายหากเด็กโตไปเป็นครู ก็จะไปถ่ายทอดความคิดที่ว่าโกงเพื่อโรงเรียนต่อไปสู่เด็ก ๆ ในอนาคตอีกด้วย วนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่รู้จบ
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2558) นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยชี้ว่าการสอบ O-Net ระดับชั้น ป.6 และ ม.3 ทั้ง 2 วันยังไม่มีรายงานการทุจริต เพราะ สทศ.ได้กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตไว้แล้ว รวมทั้งยังมีการเฝ้าระวังและเข้มงวดกับการกระทำหรือพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ที่ได้ออกระเบียบ สทศ.ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ.2557 กำหนดโทษของนักเรียนผู้เข้าสอบและกรรมการคุมสอบ กรรมการประจำศูนย์สอบ เพื่อป้องกันการทุจริต การสอบทุกประเภทที่จัดโดย สทศ.
สำหรับกรณีที่มีการตั้งกระทู้ในโลกออนไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อในกระแสข่าวดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังไม่อยากพูดอะไรไปก่อนเพราะจะกระทบกับครูและผู้บริหารโรงเรียน โดยคนที่ตั้งใจทำดีก็จะหมดกำลังใจ แต่หากมีการกระทำผิดและมีหลักฐานชี้ชัดเจน ก็ต้องเอาผิดแน่ ซึ่ง สทศ. มีระเบียบชัดเจนว่าหากกรรมการคุมสอบทำผิด ต้องถูกดำเนินการตามวินัย เพราะผิดจรรยาบรรณ และถ้าสร้างความเสียหายต่อ สทศ. ด้วย สทศ. ก็จะฟ้องร้อง
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2558) นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยชี้ว่าการสอบ O-Net ระดับชั้น ป.6 และ ม.3 ทั้ง 2 วันยังไม่มีรายงานการทุจริต เพราะ สทศ.ได้กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตไว้แล้ว รวมทั้งยังมีการเฝ้าระวังและเข้มงวดกับการกระทำหรือพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ที่ได้ออกระเบียบ สทศ.ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ.2557 กำหนดโทษของนักเรียนผู้เข้าสอบและกรรมการคุมสอบ กรรมการประจำศูนย์สอบ เพื่อป้องกันการทุจริต การสอบทุกประเภทที่จัดโดย สทศ.
สำหรับกรณีที่มีการตั้งกระทู้ในโลกออนไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อในกระแสข่าวดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังไม่อยากพูดอะไรไปก่อนเพราะจะกระทบกับครูและผู้บริหารโรงเรียน โดยคนที่ตั้งใจทำดีก็จะหมดกำลังใจ แต่หากมีการกระทำผิดและมีหลักฐานชี้ชัดเจน ก็ต้องเอาผิดแน่ ซึ่ง สทศ. มีระเบียบชัดเจนว่าหากกรรมการคุมสอบทำผิด ต้องถูกดำเนินการตามวินัย เพราะผิดจรรยาบรรณ และถ้าสร้างความเสียหายต่อ สทศ. ด้วย สทศ. ก็จะฟ้องร้อง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก