เพื่อน ๆ คนไหนกำลังจะเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศกันอยู่บ้างเอ่ย ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมตัวในครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้น "IELTS" การสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ เพื่อที่จะนำไปใช้ในการศึกษาต่อต่างประเทศ โดยการสอบครั้งนี้จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 พาร์ทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ ielts speaking, ielts reading, ielts writing และ ielts listening ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คอนเฟิร์มได้เลยว่าคงจะสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนได้ไม่น้อย แต่วันนี้สบายใจกันได้แล้วค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมได้นำแนวข้อสอบแบบเจาะลึกจากพี่ ๆ สถาบันจุฬาติวเตอร์มาติวเข้มให้กับเพื่อน ๆ กันแล้วสบายใจหายห่วงได้เลยจ้า…
สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อสอบในส่วนของ ielts speaking กันค่ะ สำหรับข้อสอบ ielts speaking นี้ หลายคนมองว่าเป็นส่วนที่ง่ายที่สุด ยิ่งถ้าใครเรียนอินเตอร์มาด้วยแล้วพาร์ทนี้ยิ่งไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยแต่สำหรับคนที่ไม่ได้คุ้นชินกับการพูดตอบโต้ภาษาอังกฤษ หรือกลัวที่สุดคือการพูดกับฝรั่ง พาร์ทนี้คงเป็นพาร์ทหินอีกพาร์ทหนึ่งที่จะต้องผ่านไปให้ได้ วันนี้ความรู้สึกเหล่านั้นจะหมดไป เพราะกระปุกดอทคอมจะพาไปสัมภาษณ์พี่ ๆ เหล่าติวเตอร์จากสถาบันจุฬาติวเตอร์ ที่จะมาเจาะลึกแนวข้อสอบพร้อมแนะนำเคล็ดลับการเตรียมตัวดี ๆ แบบง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ
ข้อสอบ ielts speaking เป็นอย่างไรและออกประมาณแนวไหนคะ ?จริง ๆ พาร์ทนี้ถ้าเทียบกับอื่น ๆ พี่ถือว่าหมูที่สุดค่ะ เพราะเป็นการพูดเน้นสื่อสาร-ตอบคำถาม-แสดงความคิดเห็น โดยเน้นที่ว่าน้อง ๆ สามารถ ตอบโต้ได้ดีแค่ไหนแค่นั้นเอง ยิ่งถ้าน้องคนไหนช่างพูดช่างคุย ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ แต่คนที่พูดไม่เก่งก็ไม่ต้องเครียดนะคะ เดี๋ยวเรามาช่วยกันค่ะ !!
แล้วคะแนนสอบของ ielts speaking ให้คะแนนจากอะไรคะ ?เกณฑ์การให้คะแนนคือ น้องตอบตรงคำถามหรือไม่ ไม่ได้เน้นไวยากรณ์มากเกินไปเหมือนข้อสอบ ielts writing แต่เอาแค่พอเหมาะพอควร ตามภาษาพูดค่ะ แต่ไม่ควรพูดเล่น หรือใช้ภาษาพูดแบบสนิทสนมจนเกินไป เพราะสอบก็คือสอบนะคะ การวางตัวและท่าทางก็ไม่ควรผ่อนคลายหรือเครียดเกินไป เดินทางสายกลางค่ะ มีสติ และตอบให้ตรงคำถามค่ะ
รูปแบบของคำถามข้อสอบ ielts speaking เป็นประมาณไหนคะ ?คำถามของ Ielts speaking แบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ตามนี้ค่ะ
1. Introduction and interview
จะเป็นการถาม-ตอบ ข้อมูลทั่วไปของน้อง ๆ เองค่ะ เป็นถามคำถามง่าย ๆ ชิล ๆ ดังนั้นน้อง ๆ เตรียมตัวฝึกพูด ฝึกโม้เรื่องของตัวเองไป เช่น ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ งานอดิเรกคืออะไร อนาคตจะทำอะไร ลองดูตัวอย่างนะคะ
ถ้าเป็นคนทำงาน ข้อสอบก็จะถามประมาณว่า
What’s your job? Why did you choose that kind of work? How long have you been doing it? Are there things you don’t like about it? What are they? หรือถ้าใครยังเรียนอยู่ ก็อาจจะเจอคำถามประมาณนี้ค่ะ เช่น
What subjects are you studying? Why did you choose those subjects? How long have you been studying them? Do you enjoy them? Why? หรืออาจจะเจอคำถามที่เกี่ยวกับครอบครัว เช่น
Tell me about the kind of accommodation you live in? How long have you lived there? What do you like about living there? ดังนั้น น้อง ๆ เตรียมเรื่องของตัวเองไปเลยค่ะ คำถามไม่ได้หนีไปจากนี้มาก แต่ถ้าไปเจอคำถามที่ไม่ได้เตรียมละก็ เสร็จแน่ ! ล้อเล่นค่ะ ^^ เจอก็ไม่ต้องกังวล ด้นสดไปเลยค่ะ เอาแค่พอรักษาบรรยากาศการพูดคุยแค่นั้นพอ ไม่ต้องกลัวนะคะ
2. Individual long turn
ส่วนนี้เขาก็จะแจก Topic มาแล้วให้เราพูด 2 นาที ซึ่งจะมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 30 วินาที หน้าที่ของเราคือ พูดเลยค่ะ จัดไปให้ครบ 2 นาที ตรงนี้คนคุมสอบจะไม่พูดเลยค่ะ จะจับเวลาและอัดเสียงเราอย่างเดียว ดังนั้น พูดให้ครบเวลา อย่า dead air นาน พยายามไหลไปเรื่อย ๆ จุดนี้พี่แนะนำว่า น้องสามารถซ้อมเองที่บ้านได้ โดยลองอัดเสียงหรือถ่ายคลิปตัวเองตอนกำลังพูด เสร็จแล้วเอากลับมาดูจะเห็นข้อบกพร่องของตัวเองค่ะ
สำหรับเรื่องของ topic ลักษณะคำถามไม่ยากมาก ส่วนมากก็เป็นเรื่องราวทั่ว ๆ ไปค่ะ เช่น
Talk about a book you are reading now or have read recently
You should say:
How and why you got it How long you it took you to read it or how long you have been reading it What kind of book it is And say if you would like to read something else similar or not, and why
Describe a friend who has played an important part in your life.
You should say:
How you met this person How long you have known them The kind of thing you do or did with them And explain why they have been important in your life
แบบสุดท้ายคือ Two-way discussion ส่วนนี้จะเป็นการตอบคำถามที่ยากขึ้นค่ะ เน้นถาม-ตอบ แสดงความคิดเห็นเชิงอภิปราย เช่น
1. What days are important in your country? 2. Why it is important to have national celebrations? 3. How is the way your national celebrations are celebrated now different from the way they were celebrated in the past? 4. Do you think any new national celebrations will come into being in the future? 5. Are there any celebrations from other countries that you celebrate in your country? 6. What are the benefits of having events that many people around the world are celebrating on the same day?จริง ๆ แล้วคำถามก็ไม่ได้ยากมาก แต่เวลาพูดตอบ น้องต้องอธิบายเหตุผลได้ ใช้คำ ใช้ประโยคให้ถูกต้อง ฟังดูยาก แต่หากน้องเตรียมตัวดี ๆ และฝึกซ้อมบ่อย ๆ ก็ไม่เกินความสามารถค่ะ พี่ลองมาแล้ว แต่ถ้าใครพื้นฐานการพูดแบบแสดงความคิดดีอยู่แล้ว อันนี้ไม่น่าห่วง อาจจะพัฒนาเรื่องการใช้พวกศัพท์ทางการมากขึ้น แต่สำหรับใครที่พูดไม่เก่งเลย ไม่มั่นใจเลยชีวิตนี้ อันนี้พี่แนะนำว่าลองหา topic มา แล้วฝึกพูดค่ะ อัดเสียงอัดคลิปด้วยจะดีมาก ไม่ต้องถึงกับทำสำเนียงให้เป๊ะเว่อร์ แต่ขอให้ตอบไปแล้วได้ใจความ ตรงคำถาม ก็ได้คะแนนจาก part นี้แน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณพี่ติวเตอร์ จากจุฬาติวเตอร์ ที่มาช่วยแฉแนวข้อสอบพร้อมแนะนำเทคนิคและวิธีการเตรียมตัวสอบ ieltsสุดท้ายนี้พี่ติวเตอร์ มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังสอบ ieltsไหมคะ ?
ทิ้งท้ายไว้นิดค่ะว่า ไม่ว่าจะเป็นการสอบอะไร ระดับไหน การเตรียมตัวเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะยิ่งขยันเตรียมตัว ฝึกความเคยชินกับข้อสอบ เวลาเจอของจริงเราก็จะไม่ประหม่า ไม่ตกใจ ดังนั้นเตรียมตัวให้ดี ๆ ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ เพราะท้ายสุด เวลาทำข้อสอบได้ ไม่ใช่แค่คะแนนจะดีอย่างเดียว แต่ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ก็จะดีขึ้นด้วยแน่นอน ขอให้ผ่านฉลุย ได้คะแนนตามที่ต้องการนะคะ ^^
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเคล็ดลับง่าย ๆ และเทคนิคดี ๆ จากพี่ ๆ จุฬาติวเตอร์ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.chulatutor.com/ielts.php แล้วเจอกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ บั๊ย !
