
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก l3nr.org
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ประวัติกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง อยากรู้เรื่องเหล่านี้ ตามกระปุกดอทคอมมาเลยจ้า
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นับว่าเป็นกาพย์ที่นักเรียนช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจะได้อ่านหรือท่องจำกันอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากเป็นบทเรียนบังคับในหนังสือเรียนภาษาไทย หลายคนคงชอบอ่านกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เนื่องจากมีการเล่นคำและการใช้วรรณยุกต์ที่สละสลวย และให้ความรู้สึกสนุกสนาน ทั้งยังทำให้อ่านเข้าใจได้ง่ายอีกด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่รู้ว่า กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง มีประวัติความเป็นมาอย่างไร หรือถอดความแล้วจะหมายความอย่างที่คิดไว้หรือไม่ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปรู้จักคำถามเหล่านี้กันค่ะ

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นบทประพันธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ทรงพระนิพนธ์ขึ้นเมื่อครั้นตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศโดยชลมารคไปมนัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ทั้งนี้่คำว่าธารทองแดงเป็นชื่อลำน้ำที่เขาพระพุทธบาท ที่อยู่ในบริ เวณพระพุทธบาท อันเป็นที่รื่นรมย์ด้วยธรรมชาติ มีสัตว์ต่าง ๆ และพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อยู่มากมาย
นอกจากนี้ ที่แห่งนี้เป็นบริเวณที่ตั้งพระตำหนักธารเกษม ที่มีมาตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ในหนังสือปริทรรศน์แห่งวรรณคดีไทยของ "นายตารา ณ เมืองใต้" ซึ่งเรียบเรียงเมื่อ พ.ศ. 2484 เรียกชื่อวรรณคดีเรื่องนี้ว่า "กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง" ตามลักษณะคำประพันธ์และเนื้อเรื่อง
ต่อมาเมื่อกรมศิลปากรอนุญาตให้นำเรื่องนี้ไปพิมพ์รวมกับพระนิพนธ์เรื่องอื่นของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร เพื่อเผยแพร่ในงานพระราชทานเพลิงศพพระยาเลขวณิชธรรมวิทกษ์ (เยี่ยม เลขะวณิช) ใน พ.ศ. 2505 ก็ได้เขียนคำนำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เรียกชื่อว่า นิราศ โดยเทียบกับชื่อพระนิพนธ์อีกเรื่องหนึ่งที่แต่งคู่กันคือ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเรื่องนี้มีชื่อว่ากาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง และเข้าใจเช่นนี้มาจนกระทังปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในหนังสือเรียนวรรณคดีวิจักษ์จะใช้ชื่อเดิมว่า กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ 1 ในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชย์ได้สถาปนาตั้งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงมีพระนิสัยสืบมาจากบรรพชนหลายประการ คือมีพระนิสัยเป็นกวีอย่างสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงดุดันเหมือนสมเด็จพระเจ้าเสือ เช่น เมื่อครั้งหนึ่งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงใช้พระแสงดาบไล่ฟันกรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ ซึ่งดำรงเพศเป็นภิกษุ จนเป็นเหตุให้ต้องหนีไปผนวชอยู่เป็นเวลา 2 ปี ณ วัดโคกแสง เพื่อให้พ้นพระราชอาญา และขณะที่ทรงหนีไปผนวชนั้น ได้ทรงนิพนธ์หนังสือเกี่ยวกับศาสนา 2 เรื่อง คือ นันโทปนันทสูตรคำหลวงกับพระมาลัยคำหลวง
ต่อมาเจ้าฟ้ากุ้งได้ลาสมณเพศเมื่อ พ.ศ. 2284 ซึ่งพระบิดาคงจะประทานอภัยหายกริ้วแล้ว จึงโปรดให้ดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราช ในระหว่างนี้เจ้าฟ้ากุ้งได้นิพนธ์เรื่องทำนองพิศวาสที่ทำให้พระองค์ได้มีชื่อเสียงว่าเป็นกวีเอกผู้หนึ่ง คือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาท และที่ดีที่สุด คือ กาพย์เห่เรือ อย่างไรก็ตามเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2298 เพราะทรงเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลซึ่งเป็นพระสนมในพระราชบิดา เป็นเหตุให้ต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์
สำหรับงานนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย คือ นันทโปนันทสูตรคำหลวง พระมาลัยคำหลวง กาพย์เห่เรือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาทและเพลงยาว

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง มีลักษณะทางฉันทลักษณ์ดังนี้ ขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี 1 บท แล้วตามด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บทใจความเหมือนกัน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นั้นมีกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพรวม 108 คู่ และโคลงปิดท้ายมี 2 บท จุดประสงค์ในการแต่ง คือ เป็นบทชมธรรมชาติ เพื่อความเพลิดเพลินในการเดินทาง เพื่อพรรณนากระบวนเสด็จทางสถลมารคจากท่าเจ้าสนุกถึงธารทองแดง และพรรณนาธรรมชาติบริเวณธารทองแดง ซึ่งเป็นธารน้ำที่อยู่ในบริเวณพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

เที่ยวเล่นเป็นเกษมสุข แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
เร่ร่ายผายผาดผัง หัวริกรื่นชื่นชมไพร
สนุกเกษมเปรมหน้าเหลือบ ลืมหลัง
แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ่งหรี้
เดินร่ายผายผันยัง ชายป่า
หัวร่อรื่นชื่นชี้ ส่องนิ้วชวนแล
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
การเที่ยวเล่นในครั้งนี้ช่างมีความสุข สนุกสนานเหลือเกิน เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่า หัวเราะกระซิกกันอย่างสดชื่นรื่นเริง โดยการชี้ชวนให้ชมธรรมชาติต่าง ๆ
เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
รูปร่างอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน
เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา
หนวดพู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย
รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ
ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
เลียงผาอยู่บนภูเขา มีรูปร่างคล้ายแพะ มีหนวดงาม ปลายเขาโค้งไปข้างหลัง ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบ เช่นเดียวกับแพะ
กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู
เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง
กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู
เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย
เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ
มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
กระจงเป็นสัตว์ที่มีตัวขนาดเล็ก มองดูน่ารักน่าเอ็นดู มีตาหูและตีนกีบเหมือนกวาง มีเขี้ยวน้อยสีขาว 2 เขี้ยว แต่ไม่มีเขา
ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
ฝูงค่างหว่างพฤกษา ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง
ฝูงลิงยวบยาบต้น พวาหนา
ฝูงชะนีมี่กู่หา เปล่าข้าง
ฝูงค่างหว่างพฤกษา มาสู่
ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง โลดเลี้ยวโจนปลิว
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
ฝูงลิงขย่มต้นมะม่วงอยู่ยวบยาบ ฝูงชะนีร้องกู่หาคู่ของมัน ฝูงค่างกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้ ฝูงลิงต่างพากันร้องขู่ตะคอก พร้อมทั้งกระโดดไล่ไขว่คว้ากัน
งูเขียวรัดตุ๊กแก ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน
กัดงูงูยิ่งพัน อ้าปากง่วงล้วงตับกิน
งูเขียวแลเหลื้อมพ่น พิษพลัน
ตุ๊กแกคางแข็งขยัน คาบไว้
กัดงูงูเร่งพัน ขนดเครียด
ปากอ้างูจึงได้ ลากล้วงตับกิน
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง
ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน
ยูงทองย่องย่างเยื้อง รำฉวาง
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง เฉิดหน้า
ปากหงอนอ่อนสำอาง ลายเลิศ
รำเล่นเต้นงามหง้า ปีกป้องเป็นเพลง
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน
ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า ปากแหลม
หัวแดงเดือยแนม เนื่องแข้ง
ปีกหางต่างสีแกม ลายลวด
ตัวด่างอย่างคนแกล้ง แต่งแต้มขีดเขียน
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู
หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู
ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู
หนูสู่รูงูงู สุดสู้
งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่
หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา
นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี
นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา
ใกล้คู่หมู่สาลิกา แวดเคล้า
นกตั้วผัวเมียมา สมสู่
สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

กระจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา
ห่อห้อยย้อยลงมา แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม
กระจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา
สไบบางนางสีดา ห่อห้อย
ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา โบยโบก
แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง
ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง
หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง
ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้
ลิงไต่กระไดลิง ลิงห่ม
ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา
หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว
ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา
มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย
จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่
ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว
ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง


คุณค่าที่ได้รับโคลงประพาสธารทองแดงมีหลายข้อ ดังต่อไปนี้...





เมื่อเราได้ศึกษากาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงแล้ว จะเห็นได้ว่ากาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีคุณค่าและความจรรโลงใจให้กับผู้อ่านได้มากมาย ทั้งยังทำให้ผู้อ่านมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณต่าง ๆ สัตว์นานาชนิด ในขณะเดียวกันก็จะได้ศึกษาวิธีการใช้ถ้อยคำของกวีที่สามารถเลือกสรรคำที่เข้าใจง่าย สื่อความหมายได้อย่างชัดเจนอีกด้วย และยังทำให้เห็นว่าวรรณคดีไม่ใช่เรื่องที่อ่านยาก เข้าใจยาก หรือน่าเบื่อแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
l3nr.org, thaigoodview.com