สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
คสช. สั่งยกเลิกโครงการแท็บเล็ตยกเซต ชี้ ไม่คุ้มค่า ไม่เหมาะสม ส่วนงบที่เหลืออีก 1,170 ล้านบาท มอบปลัด ศธ. ไปศึกษาหาโครงการอื่นที่มีประโยชน์กว่า
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้เข้าประชุมหารือกับ 10 หน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการทำงาน รวมถึงโครงการจัดซื้อแท็บเล็ต
ภายหลัง ที่ประชุมมีมติให้ยุติการจัดซื้อแท็บเล็ตประจำปีงบประมาณ 2556 ในโซน 4 ของนักเรียนชั้น ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ไปพร้อมกับการจัดซื้อแท็บเล็ตประจำปีงบประมาณ 2557 เนื่องจากไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสมที่นำมาสอนตลอดเวลา ดังนี้
1. นักเรียนทุกคนไม่จำเป็นที่ต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตัวเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียน 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ซึ่งอาจใช้งานหมุนเวียนกับนักเรียนทุก ๆ คนได้
2. แท็บเล็ตไม่เหมาะและไม่ควรที่นำมาใช้ในการเรียนการสอนตลอดเวลา แต่ควรใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนบางชั่วโมง และเด็ก ๆ ควรเรียนรู้จากครูผู้สอนเป็นหลัก
3. แท็บเล็ตมีขนาดหน้าจอเล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา อายุใช้งานสั้นแค่ 3 ปี การซ่อมบำรุงไม่คุ้มค่าเมื่อต้องซ่อมแซม
4. แท็บเล็ตเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน ไม่เหมาะสมที่ไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัวได้ และคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง แจ้งว่ามอบให้เด็กนักเรียนไม่ได้
ในส่วนของงบประมาณที่เหลือในโซนที่ 4 จำนวน 1,170 ล้านบาท กับงบประมาณปี 2557 อีก 5,800 บาทนั้น ที่ประชุมมีมติให้นำไปทำอย่างอื่นที่เกิดประโยชน์แก่การศึกษา โดยได้มอบให้ปลัด ศธ.ไปเสนอขอกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เปลี่ยนแปลงรายการและขอกันเงินงบประมาณส่วนนี้ไว้ แล้วนำเงินทั้ง 2 ก้อนไปใช้ในโครงการอื่น
ด้านนางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ร่วมประชุมด้วย เปิดเผยว่า การตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ตมาจากการวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของโครงการ และนำผลการวิจัย อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวมไปถึงผลการติดตามการดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 มาประกอบการพิจารณา ทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าควรจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแท็บเล็ตที่เหลือทั้งหมดไปใช้ทำโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนมากกว่า
"เหตุผลที่ตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ต ทั้งการจัดซื้อในโซนที่ 4 และการจัดซื้อปีงบประมาณ 2557 ด้วยนั้น เพราะยึดเรื่องผลประโยชนต่อผู้เรียนเป็นหลัก หลายฝ่ายเห็นว่าถ้านำไปทำโครงการอย่างอื่น อย่างเช่น สมาร์ทคลาสรูม อีเลิร์นนิง เป็นห้องคอมพิวเตอร์ไว้ที่โรงเรียน ให้นักเรียนหมุนเวียนมาใช้ จะเกิดประโยชน์ในวงกว้างมากกว่า ขณะเดียวกันยังไม่ต้องเสียงบประมาณจัดซื้อทุกปี ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ ศธ. ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงการที่เหมาะสมมาแทน" ปลัด ศธ. กล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก