เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ผลวิจัยชี้ จบเกียรตินิยม ไม่ช่วยให้ทำงานเก่ง หรือประสบความสำเร็จในชีวิต แต่กลับเป็นทักษะทางด้านดนตรี กีฬา และงานอดิเรก ที่ช่วยเพิ่มพัฒนาความสามารถในการทำงาน
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 รศ.ดร.อรรณพ ตันละมัย คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทางวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับจ็อบท็อปกัน และซูเปอร์เรซูเม่ ทำการสำรวจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทักษะที่ได้จากการเล่นดนตรี กีฬา งานอดิเรก กับทักษะความสามารถในการทำงาน ปรากฏว่า ดนตรี กีฬา งานอดิเรก มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาทักษะความสามารถในการทำงาน สูงถึง 90%
รศ.ดร.อรรณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ผลสำรวจเป็นเช่นนี้ เนื่องจากการทำกิจกรรมการเล่นดนตรี เล่นกีฬา หรือแม้แต่กิจกรรมงานอดิเรกอื่น ๆ นั้น เป็นการสร้างเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้รู้จักรับผิดชอบต่องาน และสังคมมากขึ้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ หากคนที่เรียนดี ได้เกรด 4 ทุกวิชา หรือจบเกียรตินิยม จะมีทักษะความสามารถในการทำงานน้อยว่า คนที่เรียนได้เกรดแบบกลาง ๆ หรือแค่ผ่าน แต่กลับรู้จักเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกห้องเรียนด้วย
นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า การเล่นดนตรี กีฬา และงานอดิเรกในแต่ละประเภท จะเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างทักษะความที่แตกต่าง อาทิ กีฬาประเภทเรือใบ จะช่วยทำให้คนเล่นกีฬาประเภทนี้เป็นคนที่กล้าตัดสินใจ และพร้อมรับมือกับทุกปัญหา เนื่องจากกีฬาเรือใบเป็นประเภทกีฬาที่จำเป็นต้องใช้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการแข่งขันแต่ละครั้ง เพื่อให้นักกีฬาสามารถนำเรือใบของตนเข้าสู่เส้นชัยได้ หรือการเล่นหมากล้อม ก็จำเป็นต้องอาศัยการวางแผน เพื่อเดินเกมให้สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เป็นต้น ประกอบกับการพัฒนาทักษะและความสามารถของแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและประเภทกิจกรรมที่ทำ จึงไม่แปลกหากขีดความสามารถในการทำงานของคนเราไม่เท่ากัน
รศ.ดร.อรรณพ กล่าวอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่ทำหน้าที่คัดเลือกคนเข้าทำงาน จะไม่ได้มองที่ผลการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่จะมองที่งานอดิเรกหรือกิจกรรมของผู้สมัคร เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรับคนทำงาน
ขณะที่ คุณวิเชียร ชนาเทพาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูเปอร์ เรซูเม่ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนอกจากความรู้จากในห้องเรียนแล้ว ทักษะอื่น ๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น ในการทำงานจึงต้องมีความรู้ ทักษะและทัศนคติที่จำเป็นเช่นกัน ดังนั้น ผู้ปกครองควรปล่อยให้บุตรหลานได้ทำกิจกรรมอื่น ๆ บ้าง เพื่อเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคตด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก