เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
3 ดาราอาวุโส แจง รับปริญญา มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก โดยไม่รู้ว่าเป็นปริญญาเถื่อน ด้านดีเอสไอ ระบุ อธิการบดีฯ เตรียมเข้าพบในวันที่ 10 กรกฎาคม หลังพบหลักฐานจดทะเบียนไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษา
เมื่อวานนี้ (8 กรกฎาคม 2556) 3 ดาราอาวุโสชื่อดัง ได้แก่ นายยอดชาย เมฆสุวรรณ, นายมานพ อัศวเทพ และนายครรชิต ขวัญประชา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศักกพล สุขปาน หัวหน้าสำนักสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาสันติภาพโลก เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีที่เป็นหนึ่งในผู้ได้รับมอบปริญญาบัตรดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ศักกพล กล่าวว่า บุคคลทั้งสามเข้าให้การในฐานะพยาน โดยนายยอดชายยืนยันว่า ได้รับเชิญให้ไปรับปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก วิทยาเขตเชียงใหม่ โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย ขณะที่นายครรชิตได้รับหนังสือเชิญ ส่วนนายมานพได้รับการติดต่อจากผู้เกี่ยวข้องให้ไปรับปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขาลาดพร้าว ที่มีการเปิดเป็นมูลนิธิศรัทธา ซึ่งทั้งหมดได้รับปริญญาบัตรในฐานะที่เป็นนักแสดงอาวุโส
สำหรับแนวทางการสอบสวนขณะนี้ ได้แบ่งพนักงานสอบสวนเป็น 2 ชุด คือ ชุดที่ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเก็บข้อมูล และอีกชุดได้รับการติดต่อจาก นายสวัสดิ์ บันเทิงสุข อธิบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกว่า จะเข้าให้การในช่วงบ่ายวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวมีการขยายสาขามากถึง 15 วิทยาเขต
พ.ต.ท.ศักกพล ยังกล่าวอีกว่า การติดตามตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวมีการเปิดมูลนิธิชื่อ ศรัทธา เพื่อรับบริจาคเงินโดยอ้างว่า จะนำเงินไปช่วยเหลือสังคมคนยากไร้ และด้านการศึกษา ทางดีเอสไอจึงจะเข้าตรวจสอบทุนจดทะเบียน บัญชีงบดุล และการใช้จ่ายเงินบริจาค เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่า การก่อตั้งมหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีการยื่นขอจัดตั้งจริง แต่มีการขอจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งถือว่าเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษา โดยทาง สกอ. อ้างว่า ไม่มีอำนาจในการสั่งปิด
ทั้งนี้ ดีเอสไอ มีอำนาจในการดำเนินการเฉพาะคดีอาญาเท่านั้น ส่วนการสั่งปิดเป็นอำนาจของ สกอ. แต่หาก สกอ. ไม่สั่งปิด มหาวิทยาลัยดังกล่าวก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ รวมถึงการแจกปริญญาบัตรเถื่อน ที่อาจทำให้ทางมหาวิทยาลัยอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้น ส่วนการฟ้องร้อง สกอ. ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลนั้น ผู้เสียหายก็สามารถยื่นฟ้องได้โดยตรง
นอกจากนี้ ตามที่มีการอ้างว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นสาขามาจากประเทศปากีสถาน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ในประเทศปากีสถานมีการใช้คำว่า Academy แต่ในประเทศไทยกลับใช้คำว่า University ซึ่งถือว่ามีความผิดชัดเจน
ด้านนายยอดชาย ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อให้เข้ารับปริญญาบัตรดังกล่าวโดยมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ทั้งค่าเครื่องบินและค่าชุดครุย เพื่อตรงไปรับปริญญาบัตรที่ จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ที่ตนได้รับปริญญาบัตร เพราะมหาวิทยาลัยดังกล่าวเห็นผลงานทางด้านศิลปะที่ตนอยู่ระหว่างการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ชื่อ ยอดชายมิวเซียม ออฟ อาร์ต ที่ จ.นครปฐม
ตนไม่รู้สึกอายที่ได้รับปริญญาใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นปริญญาเถื่อนหรือจริง แต่ตนดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าสิ่งที่ตนทำ เบื้องต้นคงไม่ดำเนินการเรื่องคืนปริญญา นอกจากนี้ในวันที่ตนรับปริญญา เมื่อต้นปี 2556 ยังมีเพื่อนดาราอาวุโสหลายคนเดินทางไปรับด้วย เช่น นายสมบัติ เมทะนี, นายฤทธิ์ ฤาชา และนายดามพ์ ดัสกร
ส่วนนายมานพ กล่าวว่า พวกตนเป็นนักแสดงอาวุโส อายุสามคนรวมกัน 230 ปี เขาคงเห็นว่า พวกตนมีอาวุโสจึงมอบปริญญาให้ แต่ตนก็ไม่ได้นำไปทำอะไร และก็ไม่ทราบว่า เป็นมหาวิทยาลัยเถื่อนหรือไม่ รู้เพียงแค่เป็นมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกา จะถูกหรือผิด คงต้องให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอเป็นผู้สอบสวนจะดีกว่า
การรับปริญญาบัตรนี้ ตนไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวแอบอ้างชื่อพวกตนไปสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับคนทั่วไปหรือไม่ แต่ที่รับปริญญาบัตรไป เพราะไม่เห็นว่าจะเสียหายใด ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก