เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สำนักงาน ม.สันติภาพโลก
ดีเอสไอ ประสาน กกต. ตรวจสอบข้อมูล นายสุขุม ศิษย์หลวงปู่เณรคำ หลังใช้ใบปริญญามหาวิทยาลัยสันติภาพโลกสมัครเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ด้านเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สารภาพก่อตั้งมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2556 พ.ต.ท.ศักกพล สุขปาน หัวหน้าสำนักสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่ามีจะประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก รวมถึงทั้งจะเดินทางไปพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรุงเทพมหานคร เพื่อขอรายละเอียดกรณีที่ นายสุขุม วงษ์ประสิทธิ ลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ นำปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวมาสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทางดีเอสไอจะขอให้ กกต. เป็นผู้รับผิดชอบในการแจ้งความดำเนินคดี นายสุขุม ฐานใช้เอกสารปลอมในการรับสมัครเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังขอให้ กกต. ช่วยตรวจสอบประวัติบุคคลที่คาดว่าจะนำปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกมายื่นสมัครรับเลือกตั้งด้วย
ด้าน นายสุขุม วงประสิทธิ โฆษกขันติธรรม ลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ แจงไม่ทราบว่า ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกเป็นปริญญาบัตรปลอม ซึ่งตนได้รับการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวให้เข้ารับ เนื่องจากเห็นว่า ตนเคยทำโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์หลายโครงการ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการจ่ายเงินจำนวน 15,000-30,000 บาท เพื่อแลกกับการเข้ารับปริญญาแต่อย่างใด และตนเห็นว่าเป็นเกียรติแก่ครอบครัว ประกอบกับได้ตรวจสอบทางเว็บไซต์แล้ว พบว่ามีรายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนปรากฏอยู่ ตนจึงตัดสินใจเข้ารับ พร้อมยอมรับว่า ตนได้นำปริญญาบัตรไปยื่นประกอบหลักฐานการลงรับสมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจริง ในสังกัดพรรคยางพาราไท
นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะ ผอ.กกต.ทถ.กทม. เป็นผู้รับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนส่งมายัง กกต.กทม. เผยว่า ตนขอตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งในวันนี้ ( 8 กรกฎาคม 2556) โดยจะตรวจสอบว่ามหาวิทยาลัยดังกล่าวได้รับอนุญาตจาก สกอ. หรือไม่ และหากพบว่าผู้สมัครทราบมาก่อนว่าตนเองเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีสิทธิเข้ารับสมัคร แต่ยังมาสมัครก็ถือว่าผิด ซึ่งหากดีเอสไอดำเนินคดีอาญากับตนในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานการเลือกตั้ง ตนก็จะแจ้งความเอาผิดกับนายสุขุมเช่นกัน เนื่องจากผู้สมัครเลือกตั้งได้รับรองความถูกต้องของเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากวันที่ 6 กรกฎาคม 2556 ผลการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฎ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกในประเทศไทย, นางประไพจิตร สว่างเนตร นายทะเบียน ที่อ้างว่าเป็นผู้ประสานงานกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ในประเทศปากีสถาน และนายสมัย เหมันต์ ผู้ดูแลระบบเทคโนโลยี โดยทั้ง 3 ราย ยอมรับว่า ปริญญาบัตรของทางมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่สามารถนำไปรับรองวุฒิการศึกษาได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดบางคนถึงนำใบปริญญาไปขอปรับวุฒิการศึกษา หรือนำไปลงสมัครรับเลือกตั้งต่าง ๆ
ด้านนายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เปิดเผยว่า ตนพร้อมให้ปากคำกับทางดีเอสไอ และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบความจริงทุกอย่าง ส่วนข้อหาหลอกลวงหรือฉ้อโกงนั้น คงต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล สำหรับที่ผ่านมา ตนยอมรับว่า เคยแจกปริญญาทั้งพระและชาวเขาที่มีความรู้เกี่ยวกับสันติภาพ โดยจะเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อนำมาซื้อเสื้อครุยและใบประกาศ ซึ่งคิดเป็นราคาเหมารวม คือ ของพระและชาวเขา คิดราคา 7,000 บาท ส่วนบุคคลทั่วไปคิด 15,000 บาท
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงเตรียมเรียกบุคคลที่ได้รับใบปริญญาบัตรกว่า 1,200 คน มาให้ปากคำในสัปดาห์นี้ โดยจะเรียกบุคคลที่มีชื่อเสียงก่อน และจะนำพนักงานสอบสวนลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พร้อมเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ นายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ในการจัดตั้งและดำเนินการ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังพบว่ามีการเปิดเป็นมูลนิธิศรัทธา ด้วยการอ้างว่าเป็นมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้ ซึ่งดีเอสไอจะเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินเกี่ยวกับการบริจาคทั้งหมด ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกได้ประกาศยกเลิกการมอบปริญญาบัตร ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 ที่จะถึงแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
