x close

เรียนภาษาอังกฤษที่ไหน ให้ตรงใจเรา



เรียนภาษาอังกฤษที่ไหน ให้ตรงใจเรา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           อยากเรียนภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนดี เพราะแม้จะมีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ไหนจะตรงกับความต้องการของเรา แล้วคนอื่น ๆ เขานิยมเรียนกันที่ไหนบ้างนะ ไปดูกันเลย

           การเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นเสมือนยาขมที่ทำให้ใครหลายคนอยากจะหันหน้าหนี เพราะไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ตามไม่ทัน แต่สุดท้ายแล้วด้วยสภาพสังคมปัจจุบันที่ภาษาอังกฤษนั้นเป็นเหมือนภาษากลางระดับโลก ที่เราจะต้องพบเจอในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เราต้องหันหน้ากลับมาดื่มยาขมถ้วยนี้อีกครั้ง แต่การตัดสินใจเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษนั้นก็เป็นที่เรื่องที่ชวนให้ลำบากใจไม่ใช่น้อย เพราะมีสถาบันหรือโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเปิดอยู่มากมายจนเราตัดสินใจเริ่มต้นไม่ถูก เพราะไม่ทราบว่าจะเรียนแล้วได้ผลหรือคุ้มค่ากับเงินค่าเรียนหรือไม่

           ด้วยเหตุนี้ วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็ได้นำโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เพื่อน ๆ ที่กำลังสับสน ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน ลองพิจารณาดูค่ะ ว่าโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ใดกันที่จะเหมาะกับเพื่อน ๆ มากที่สุด

1. บีบีแอนด์ซี (BB&C)

           เป็น 1 ในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่รับการบอกต่อมาอย่างยาวนาน ด้วยการเรียนการสอนที่ดี เนื้อหาครอบคลุม อธิบายชัดเจน และเน้นการปูพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง หรือไม่มีพื้นฐานเลย เหมาะสำหรับการเรียนรู้พื้นฐานเพื่อนำไปศึกษาต่อยอด หรือนำไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ โดยหลักสูตรที่เปิดสอนนั้น จะมีทั้งหลักสูตรที่เน้นในด้านการเขียน คำศัพท์ โครงสร้างไวยากรณ์ รวมทั้งการเตรียมตัวเพื่อสอบ TOEFL, IELTS, GMAT, CU-Tep และ TU-Get

           สำหรับการเรียนการสอนที่ BB&C จะเป็นการเรียนผ่านเทป โดยไม่มีการสอนสด ห้องเรียนมีนักเรียนกลุ่มไม่ใหญ่นัก ทำให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียนสูง โดยที่ผู้ที่สนใจสามารถเข้าทดลองเรียนในแต่ละหลักสูตรก่อนได้เป็นเวลา 30 นาที เปิดสอนอยู่ใน 3 สาขา ที่ เกษตรฯ รามคำแหง และ ปิ่นเกล้า มีอัตราค่าเรียนแต่ละหลักสูตรอยู่ตั้งแต่ราคา 5,500-15,000 บาท

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bbandc.ac.th/index.htm


2. สถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (AUA)

           นี่คือ 1 ในสถาบันสอนภาษาเก่าแก่ที่เปิดการสอนมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งสิ่งที่พิเศษอย่างมากก็คือ นักเรียนจะได้เรียนรู้ทักษะในด้าน ฟัง พูด อ่าน และเขียน จากอาจารย์เจ้าของภาษา อีกทั้งก่อนเข้าเรียนนักเรียนจะต้องเข้ารับการทดสอบแบ่งระดับก่อน ทำให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มจะสามารถพัฒนาทักษะของตัวเองไปพร้อม ๆ กันได้ อีกทั้งวิธีการสอนแบบบูรณาการ ผ่านการอ่านจากตำรา การฟังเทปสนทนา การเขียน การเล่นเกม และการเข้ากิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อน ๆ ในห้อง ที่ต้องใช้บทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ก็ยังช่วยให้นักเรียนมีการฝึกฝนในด้านทักษะทั้ง 4 ด้านไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มความกล้าและความเคยชินในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารมากขึ้น

           นอกจากนี้ หลักสูตรของ AUA จะจัดให้นักเรียนเข้ารับการทดสอบเลื่อนชั้นในการเรียนทุก ๆ 4 ระดับ ซึ่งเป็นการทดสอบที่มีความจริงจังและนักเรียนที่ไม่ผ่านการทดสอบก็จะต้องกลับไปเรียนซ้ำในระดับก่อนทดสอบอีกครั้ง ทำให้นักเรียนเกิดการกระตุ้นและฝึกฝนตลอดเวลา และสามารถผ่านเลื่อนชั้นไปได้เมื่อมีความพร้อมที่จะเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น

           โดยนักเรียนที่เข้ามาเรียนในสถาบันนี้ จะมีตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปที่จบการศึกษาระดับมัธยมต้นแล้ว ไปจนถึงคนวัยทำงาน ที่ต้องการเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ เตรียมตัวเพื่อสอบแข่งขัน เตรียมตัวไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ หรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ AUA มี 6 สาขา กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 10 สาขาในต่างจังหวัด โดยมีอัตราค่าเรียนแต่ละหลักสูตรอยู่ตั้งแต่ราคา 3,300-6,600 บาท ในหลักสูตรธรรมดา และ 3,400-9,000 บาท ในหลักสูตรเน้นเฉพาะทาง

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.auathailand.org/


3. โรงเรียนดวงใจภาษาต่างประเทศ

           เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เปิดการสอนมานานกว่า 30 ปี ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งทุกหลักสูตรดำเนินการสอนสดโดย ครูดวงใจ สุภาไวย์ และ ดร.ศุภชัย สุภาไวย์ ผู้มีความเชี่ยวชาญในเนื้อหาวิชาการและทักษะการถ่ายทอดความรู้ที่ง่ายต่อการเข้าใจ หลักสูตรที่เปิดสอนมีการพัฒนาและรวมองค์ความรู้ที่ครอบคลุมรอบด้าน โดยหลักสูตรที่ผู้เรียนเห็นพ้องว่ามีความโดดเด่นที่สุดก็คือหลักสูตรการเขียน และด้วยประสบการณ์การใช้ชีวิตและการสอนในต่างประเทศ ทำให้ครูผู้สอนสามารถให้คำชี้แนะแก่ผู้เรียนที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ หรือเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษเพื่อนำไปสอบแข่งขัน หรือนำไปใช้ในการทำงาน

           นอกจากนี้ ที่สถาบันยังมีสื่อการสอน หนังสือ แบบฝึกหัด และซีดี พร้อมสำหรับให้ผู้ที่สนใจนำไปศึกษาฝึกฝนทักษะเพิ่มเติมได้ที่บ้าน อีกทั้งครูผู้สอนยังยินดีให้คำแนะนำในด้านวิธีการสอบ การเตรียมตัวสอบ การจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ  เพื่อไปศึกษาต่อในต่างประเทศแก่ผู้เรียนที่สนใจได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการปรึกษาใด ๆ รวมทั้งยังรับตรวจงานเขียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนอีกด้วย โดยโรงเรียนดวงใจภาษาต่างประเทศมีอัตราค่าเรียนแต่ละหลักสูตรอยู่ตั้งแต่ราคา 3,000-3,500 บาท

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://ajarnduangjai.com/


4. โรงเรียนภาษาอังกฤษสันติสุข (SES)

           สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ผู้ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน โดยเน้นการพูดและการสนทนาภาษาอังกฤษ แต่มีงบประมาณจำกัดนั้น โรงเรียนภาษาอังกฤษสันติสุข ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีมาก เนื่องจากการสอนในแต่ละระดับนั้นมีความครอบคลุมการฝึกฝนทักษะทั้ง 4 อย่างครบถ้วน รวมทั้งยังมีหลักสูตรพิเศษสำหรับการสนทนาระดับสูง และหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับนักเรียนใหม่ คนละ 500 บาท และค่าตำราที่มีราคาไม่ถึงเล่มละ 200 บาทแล้ว อัตราค่าเรียนแต่ละหลักสูตรนั้น อยู่ในช่วงราคาเพียง 1,150-1,950 เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่สบายกระเป๋ามากเมื่อเทียบกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแห่งอื่น

           และนอกเหนือไปจากการให้ความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษแล้ว ครูผู้สอนก็จะมีการแบ่งปันความรู้ในด้านศาสนาสอดแทรกเข้ามาเป็นบางครั้ง ซึ่งจะช่วยจรรโลงใจนักเรียนนอกเหนือจากการศึกษาในด้านวิชาการอีกด้วย โดยในทุก ๆ หลักสูตรของโรงเรียนภาษาอังกฤษสันติสุข ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสันติสุข ย่านลาดพร้าว จะเปิดสอนวันละ 2 ชั่วโมง ในวันจันทร์- พฤหัสบดี โดยมีนักเรียนในแต่ละห้องอยู่ในกลุ่มที่ไม่ใหญ่นัก ราว 6-12 คน ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพอย่างมาก 

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.santisuk.org/


5. ฟาสต์ อิงลิช (Fast English)

           สำหรับผู้ที่มีงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง Fast English คงจะเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมด้วยคำยืนยันจากนักเรียนจำนวนมากที่พร้อมใจกันบอกว่า สถาบันแห่งนี้สามารถช่วยพัฒนาความรู้และทักษะภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น และได้ผลจริงซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความรู้พื้นฐานอยู่แล้วและต้องการศึกษาต่อยอด เพื่อนำไปใช้ในการสอบแข่งขันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

           ด้วยประสบการณ์ในการใช้ชีวิตต่างแดนมานานนับ 10 ปี ของเหล่าอาจารย์ระดับดอกเตอร์ จากมหาวิทยาลัย Top 10 ทำให้อาจารย์มีการตกผลึกทางความรู้และความคิดได้อย่างเฉียบขาด มีความเชี่ยวชาญและสอนได้ตรงประเด็น มีการเน้นเฉพาะใจความสำคัญของแต่ละเรื่องทำให้นักเรียนไม่หลงประเด็น และสิ่งที่เด่นที่สุดก็คือนักเรียนจะได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษจากการทำโจทย์นับพัน ซึ่งจะสร้างเสริมประสบการณ์ให้ได้เป็นอย่างดี สำหรับสื่อการสอนนั้น ตำราของสถาบันได้รับการยอมรับว่าเป็นตำราที่ดีมาก มีการสรุปเนื้อหาที่ดีและหลากหลาย รวมถึงมีแบบฝึกหัดประกอบ และในส่วนของเทปก็จะมีการอัดใหม่ในทุกสัปดาห์ นักเรียนจึงจะได้เรียนรู้จากเทปที่มีเนื้อหาสดใหม่อยู่เสมอ

           อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เรียนที่สนใจเรียน อาจจะต้องมีการคำนวณเวลาให้ดีก่อนลงชื่อสมัครหรือจองหลักสูตรของทางสถาบัน เพราะมีนักเรียนที่สนใจเข้าเรียนเยอะมากจนบางหลักสูตรอาจจะเต็ม และต้องจองล่วงหน้านานหลายเดือน อีกทั้งยังต้องมีเวลาสำหรับเข้ามาเรียนพอสมควรด้วย โดย Fast English เปิดสอนอยู่ 3 สาขาที่ สีลม เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามสแควร์ อัตราค่าเรียนแต่ละหลักสูตรอยู่ตั้งแต่ราคา 10,000-18,000 บาท

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fast-english.com/


6. วอลล์สตรีท (Wall Street)

           สำหรับ Wall Street นับเป็นอีกสถาบันหนึ่งที่ผู้เรียนส่วนมากยืนยันว่าสามารถเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนสนุก เข้าใจง่าย จากอาจารย์เจ้าของภาษาโดยตรง มีกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษทั้งในและนอกสถานที่ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจศึกษาและมีงบประมาณในการเรียนภาษาที่สูงพอสมควร เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าค่าเล่าเรียนของสถาบันแห่งนี้สูงเอาเรื่องจริง ๆ

           นอกจากความรู้และทักษะในด้านอื่น ๆ แล้ว สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเข้าเรียนที่สถาบันแห่งนี้อย่างเห็นได้ชัดก็คือ ผู้เรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถนำไปใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวัน การติดต่อธุรกิจ และใช้ในการทำงานได้ จากการฝึกสนทนากับอาจารย์เจ้าของภาษาภายในชั้นเรียนขนาดเล็กซึ่งมีผู้เรียนไม่ถึง 4 คน ทำให้ผู้เรียนเกิดความกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษออกมา นอกจากนี้ผู้เรียนยังจะต้องเข้ารับการทดสอบวัดระดับก่อนเรียน ทำให้มั่นใจว่าผู้เรียนในแต่ละหลักสูตรจะมีพัฒนาการไปพร้อม ๆ กัน

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wallstreet.in.th/


7. อิน ลิง กัว (INLINGUA)

           และนี่ก็คืออีก 1 สถาบันที่มีผู้ให้ความสนใจสมัครเรียนกันมาก ด้วยบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลายสบาย ๆ และสนุกสนาน ในชั้นเรียนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถฝึกสนทนาโต้ตอบกับอาจารย์เจ้าของภาษาได้อย่างทั่วถึง โดยอาจารย์จะคอยชี้แนะถึงวิธีการออกเสียงและวิธีการพูดที่ถูกต้องให้แก่ผู้เรียนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะทำให้มีทักษะในด้านการพูดแล้ว ยังเป็นสร้างเสริมความรู้ด้านโครงสร้างขอไวยากรณ์ไปพร้อมกันด้วย อีกทั้งแบบฝึกหัดด้านการเขียนก็ยังทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้พื้นฐานต่าง ๆ อย่างครบครัน

           และนอกจากการเรียนรู้ภายในห้องเรียนแล้ว ที่ INLINGUA ยังมีกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ นอกห้องเรียน และมีสื่อการสอนอื่น ๆ ที่พร้อมให้ผู้เรียนนำกลับไปศึกษาต่อเพิ่มเติมด้วยตัวเองอีกด้วย

           อีกจุดหนึ่งที่ทำให้มีผู้สนใจเรียนที่สถาบันแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสถาบันแห่งนี้มีสาขาเปิดกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้ง่ายต่อการเดินทาง แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเรียนกับ INLINGUA นั้นอาจจะมีบางหลักสูตรที่ต้องรอให้มีผู้สมัครครบตามจำนวนขั้นต่ำก่อน จึงจะสามารถเปิดสอนได้ ทำให้ผู้เรียนอาจจะต้องรอในบางหลักสูตร

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.inlinguabangkok.com/?g=1


8. โรงเรียนสอนภาษาแบร์ลิทซ์ (Berlitz)

           สำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตั้งใจจะเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างระเทศ รวมทั้งกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการทำงานหรือการประกอบธุรกิจ Berlitz ก็คืออีกตัวเลือกหนึ่งที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนอกจากทักษะด้านไวยากรณ์ที่จะได้ซึมซับจากการเรียนรู้บทสนทนาต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่โดดเด่นที่สุดซึ่งนักเรียนจะได้รับก็คือทักษะด้านการพูดและการฟังจากอาจารย์เจ้าของภาษาจากหลายชาติที่จะผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาสอนในทุก ๆ ครั้งที่เรียน ทำให้เราได้ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษในสำเนียงต่าง ๆ

           ด้วยการคัดสรรคเหล่าอาจารย์ที่ได้มาตรฐาน ทำให้อาจารย์สามารถให้คำชี้แนะและแก้ไข วิธีการพูดหรือการออกสำเนียงของนักเรียนอย่างตรงจุด ตรงประเด็น จนกว่านักเรียนจะเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งภายในห้องเรียนซึ่งมีนักเรียนเพียงกลุ่มเล็ก ๆ นั้น ก็จะทำให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสในการฝึกการสนทนาร่วมกับอาจารย์และเพื่อน ๆ อย่างทั่วถึง และในส่วนของตำราก็ได้ถูกกลั่นกรองมาเพื่อให้นักเรียนได้มีการเรียนรู้สถานการณ์จำลองที่สามารถพบได้จริง ก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและสามารถนำสิ่งที่เรียนไปประยุกต์ต่อยอดอย่างได้ผล

           สำหรับผู้ที่สนใจเรียนนั้นสามารถเข้าทดสอบวัดระดับได้ฟรี และเข้าทดลองเรียนดูก่อนได้ 1 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ต้องขอแนะนำอีกนิดว่าสำหรับผู้ที่สนใจเรียนนั้นสมควรจะมีงบประมาณที่สูงพอสมควร เพราะค่าเล่าเรียนในแต่ละหลักสูตรนั้นถือว่าสูงพอสมควร ซึ่งสำหรับใครที่พร้อมจะเข้าเรียนยังสถาบันแห่งนี้ สามารถเลือกเรียนได้ที่ 3 สาขา ที่ สีลม สุขุมวิท และสยามพารากอน

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.berlitz.co.th/


9. บริติช เคานซิล (BRITISH COUNCIL)

           สำหรับผู้ที่อยากจะฝึกฝนภาษาอังกฤษกับอาจารย์เจ้าของภาษาชาวอังกฤษ หรือเรียนรู้เพื่อเตรียมตัวไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ BRITISH COUNCIL ก็คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทางสถาบันได้คัดสรรอาจารย์ผู้สอนที่มีคุณภาพ และมีประสบการณ์ด้านการสอนจริง ๆ มาสอนสดกันในทุก ๆ หลักสูตร โดยหลักสูตรของ BRITISH COUNCIL นั้นก็มีตั้งแต่หลักสูตรสำหรับเด็กที่แม้แต่เด็กวัยอนุบาลก็เข้ามาเรียนได้ ไปจนถึงหลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่วัย 16 ปีขึ้นไป ประกอบด้วยหลักสูตรทั่วไป หลักสูตรการเขียน และหลักสูตรสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในการเจรจาด้านธุรกิจ

           นอกจากการสอนภาษาอังกฤษแล้ว ทาง BRITISH COUNCIL ก็ยังมีการจัดกิจกรรม สัมมนาต่าง ๆ เกี่ยวการศึกษาต่อประเทศอังกฤษ และมีบริการจัดสอบ IELTS ให้แก่บุคคลทั่วไป โดยผู้ที่สนใจสมัครเรียนจะต้องโทรศัพท์มาขอนัดการทดสอบวัดระดับล่วงหน้า โดยทางสถาบันมีสาขาที่เปิดสอนอยู่ที่สยามสแควร์, ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, แจ้งวัฒนะ, ศรีนครินทร์, เชียงใหม่

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.britishcouncil.or.th/


10. สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

           สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงจะเป็นสถาบันสอนภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอันเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วทั้งในกลุ่มคนทำงานและนิสิตนักศึกษา ด้วยคุณภาพของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศซึ่งรับประกันคุณการสอนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้เรียนยังจะได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน ไม่เคร่งเครียดซึ่งผิดจากที่หลาย ๆ คนคาดไว้ และยังจะได้เรียนรู้ทักษะทั้ง 4 ด้านอย่างครบครัน

           นอกจากนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้นจึงจะเข้าเรียนได้ เพราะสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ได้เปิดโครงการอบรมภาษาสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งสามารถเข้ามาสมัครเรียนได้ทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษาต่างมหาวิทยาลัย กลุ่มคนวัยทำงาน และคนอื่น ๆ ที่สนใจ

           โดยสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้ามาสมัครเรียนได้ที่สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตามวันและเวลาที่เปิดรับสมัคร พร้อมตรวจสอบรายชื่อและห้องเรียนได้ตามบอร์ดที่ติดประกาศไว้หน้าสำนักงานเลขานุการ โดยมีค่าใช้จ่ายในการสมัครเรียนแต่ละหลักสูตรรวมค่าเอกสารอยู่ที่ 2,900-4,600 บาท

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://englishtu.com/rangsit/course.html


11. สมาร์ท อิงลิช (Smart English)

           และนี่ก็คือ 1 ในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแฟรนไชส์สุดฮิต ที่เปิดสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ตั้งแต่ชั้นอนุบาล 3 จนถึงระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานได้รับโอกาสในการศึกษาเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็ก โดยทางสถาบันก็ได้มีการปรับหลักสูตรให้มีความพร้อมและเหมาะสมแก่การเรียนรู้ของเด็กไทย มีความยากง่ายไล่ตามระดับอย่างเป็นขั้นตอน โดยที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน จนเกิดความเคยชิน และสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว 

           นอกจากระบบการสอนที่เหมาะสำหรับพัฒนาการของเด็ก ๆ แล้ว ผู้ปกครองยังไม่ต้องกังวลว่า เด็ก ๆ จะเครียดหรือรู้สึกเบื่อกับการเรียนรู้ เพราะทาง Smart English มีวิธีการสอนไวยากรณ์ด้วยการนำเสนอที่ไม่น่าเบื่อ ผสมผสานกับการเล่นเกมและกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เด็ก ๆ สนุกไปกับการเรียนรู้ ทั้งยังช่วยฝึกสมาธิการฟังของพวกเขาด้วยอุปกรณ์ Sound Lab อีกด้วย

           โดย Smart English นั้น มีสาขาที่เปิดสอนอยู่มากมายทั้งประเทศ ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกพาบุตรหลานไปสมัครเรียนได้ตามสาขาที่สะดวก และสามารถสอบถามค่าเรียนในแต่ละหลักสูตรได้จากสาขาที่ต้องการสมัคร

           สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.smartenglish.in.th/sme/index.php


           อย่างไรก็ดี สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ประสบผลสำเร็จนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนจะต้องมีการศึกษาหาความรู้ หมั่นทบทวน และกล้าที่จะฝึกฝนทักษะการพูดของตนเอง เพราะการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและความใส่ใจศึกษานั้น ย่อมได้ผลสำเร็จมากกว่าการมานั่งเรียนภายในห้องเพื่อรับฟังความรู้ที่ได้จากอาจารย์ผู้สอนเพียงอย่างเดียวอยู่แล้ว โดยสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ รอบตัวที่สามารถเพิ่มพูนประสบการณ์ ทักษะ และความรู้ของเราให้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นนั้น เช่น ตำรา หนังสือภาษาอังกฤษ การฟังวิทยุภาษาอังกฤษ ฟังเพลง หรือแม้แต่การชมภาพยนตร์ เป็นต้น



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรียนภาษาอังกฤษที่ไหน ให้ตรงใจเรา โพสต์เมื่อ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:18:34 20,342 อ่าน
TOP