เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก naturalhealthyconcepts.com
เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมระยะหลัง ๆ มานี่เด็ก ๆ ตั้งแต่วัยประถมจนวัยมัธยมเริ่มมีอาการปวดหลังกันมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ก็ยังอายุน้อยกันอยู่ แต่หากเด็ก ๆ เหล่านั้น สะพายกระเป๋าเป้อยู่เป็นประจำทุกวันก็หายสงสัยกันได้เลยค่ะ เพราะสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ปวดหลังก็คงจะมาจากเจ้ากระเป๋าสะพายใบโตนี่แหละ ยิ่งหากสะพายไม่ถูกหลักด้วยล่ะก็ คงต้องทรมานกับอาการปวดหลังกันต่อไปอีกยาว วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำข้อมูลดี ๆ จาก Natural healthy concepts มาฝากกัน จะได้รู้ว่าอาการจากการสะพายกระเป๋าเป้ไม่ถูกวิธีจะมีอะไรบ้าง และตามหลักแล้ว เราต้องสะพายกระเป๋าอย่างไร เพื่อไม่ให้ปวดหลัง
อาการบาดเจ็บจากการสะพายกระเป๋าเป้
โดยส่วนมากแล้ว อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นจากการสะพายกระเป๋าเป้ มักจะมีสาเหตุมาจากน้ำหนักของกระเป๋าเป้ที่มากเกินไป ทำให้หลังต้องรับภาระน้ำหนักเกินพิกัด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ขึ้นกับร่างกายเราได้
ปวดหลัง ไหล่ คอ แขน และมือ
กล้ามเนื้อตึงและอ่อนแอ
ชาและเจ็บที่แขน
เสียการทรงตัวและกระดูกสันหลังโค้งงอ
วิธีสะพายกระเป๋าเป้ที่ถูกต้อง
เพื่อป้องกันอาการปวดหลัง และอาการไม่พึงประสงค์ทั้งหลายอย่างที่บอกไป ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด จึงแนะนำให้สะพายกระเป๋าเป้ดังนี้ค่ะ
ไม่บรรจุของในกระเป๋าเป้มากเกินไป โดยเฉลี่ยแล้วต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 10% ของน้ำหนักตัว กล่าวคือ ถ้าร่างกายหนัก 30 กิโลกรัม ควรต้องสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม
จัดวางของในกระเป๋าด้วยการวางของที่มีน้ำหนักมากที่สุด ไว้ให้ชิดกับหลังให้มากที่สุด จะเรียงน้ำหนักไล่จากมากไปหาน้ำหนักน้อยก็ได้ แต่ไม่ควรให้ของไหลไปมาตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
สะพายกระเป๋าทั้งสองไหล่ ไม่ควรสะพายไหล่เดียว หากมีสายรัดเอวก็ควรรัดด้วย
ปรับสายกระเป๋าให้อยู่สูงจากระดับเอวประมาณ 2 นิ้ว
ปรับความยาวของกระเป๋าให้สะพายได้กระชับพอดีหลังที่สุด
รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทำตามคำแนะนำที่เรานำมาฝากกันด้วยนะคะ จะได้สะพายกระเป๋าไปโรงเรียนกันได้สบายขึ้น ไม่ปวดหลัง และไม่ต้องทรมานกับอาการปวดเมื่อยตามร่างกายอีกต่อไป สดใสแข็งแรงสมวัยกันทุกคนจ้า