เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
โรงเรียน-ผู้ปกครอง ไม่เห็นด้วย ทรงผมนักเรียน กฎใหม่ ศธ. อนุญาตเด็กซอยผมได้ ชี้ทำเด็กแข่งกันแต่งตัว ฟุ้งเฟ้อ หมกมุ่นเรื่องแฟชั่น เกิดการเปรียบเทียบ
วานนี้ (16 พฤษภาคม 2556) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้กล่าวถึงกรณีที่ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ. เตรียมร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติ การแต่งกาย และแบบทรงผมของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งในสาระสำคัญของระบบดังกล่าว ได้เปิดช่องให้นักเรียนหญิงไว้ผมยาว สั้น หรือซอยผมได้ ว่า ระเบียบดังกล่าวเป็นการผ่อนคลายกติกาลงเท่านั้น ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกไว้ทรงใดก็ได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ต้องขึ้นอยู่กับค่านิยมนั้น ๆ ของโรงเรียนด้วย โดยทาง สพฐ. เอง ก็ไม่ได้มีอะไรบังคับ และขอให้นักเรียน ผู้ปกครอง และทางโรงเรียนตกลงกันเอง
เลขาธิการฯ กพฐ. กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะผ่อนคลายกฎระเบียบ แต่ก็ขอให้นักเรียนคำนึงถึงกรอบของความเหมาะสม ความพอดี เพราะนักเรียนทุกคนมีหน้าที่คือตั้งใจเรียน ถ้ามัวแต่ไปมุ่งเกี่ยวกับเรื่องทรงผม หรือเครื่องแต่งกาย ก็จะทำให้จิตใจไขว้เขวออกไปจากการเรียนได้ และอาจจะทำให้ผู้ปกครองต้องมีภาระด้านการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จึงอยากฝากไปยังนักเรียนว่า อิสระเรามีได้ แต่ต้องคำนึงถึงความพอดี และความเหมาะสมด้วย
ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศธ. กล่าวถึงสาเหตุที่ตัดคำว่า "ห้ามนักเรียนซอยผม" ออกจากกฎกระทรวงนั้น เพราะเห็นว่า เวลานักเรียนชายตัดผมก็ต้องมีการซอยผมออกอยู่แล้ว หรือแม้แต่กระทั่งตัดรองทรงก็ต้องมีการซอย ดังนั้นร่างเดิมที่กำหนดห้ามซอยผม ก็อาจจะมีการตีความไปในทางที่ผิด จึงคิดว่าตัดคำว่าห้ามซอยออกไปเลยดีกว่า
รมว. ศธ. กล่าวต่อไปว่า ตนไม่คิดว่าการตัดคำว่าซอยผมออกจะมีปัญหา แต่สิ่งที่เรากลัวก็คือ เวลาเราบอกห้ามซอย ก็จะกลายเป็นว่าผมที่ตัดออกมาซอยไม่ได้เลย ซึ่งผิดธรรมชาติของการตัดผม และตนก็ไม่ออกร่างระเบียบขึ้นมาเพื่อเอาใจเด็ก สิ่งสำคัญคือ เรากำลังสอนเด็กให้เป็นคนมีเหตุผลในสังคมประชาธิปไตย เวลาทำอะไรก็ต้องรู้จักมีเหตุมีผล รู้จักคิด หากถ้าเราบอกให้เขาตัดทรงเกรียนเหมือนสมัยก่อน ก็ต้องถามว่ามีเหตุผลอะไรที่ไปบอกเขาให้ตัดทรงนั้น เมื่ออธิบายไม่ได้ และสั่งให้เด็กทำ ก็เท่ากับเป็นการสอนเด็กให้รับคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล
ส่วนทางด้าน นางจำนงค์ แจ่มจันทร์วงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบมาเพียงว่าจะทำการปรับเปลี่ยนกฎกระทรวงเรื่องทรงผม คือ ให้ไว้ผมยาวได้และเก็บรวบให้เรียบร้อย ซึ่งตนถือว่าเป็นความทุกข์เล็ก ๆ ของโรงเรียน เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนสตรีวิทยามีวัฒนธรรมการไว้ผมสั้นมาอย่างยาวนาน ทั้ง ม.ต้น และม.ปลาย และถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน แต่ทั้งนี้ เมื่อมีกฎออกมา ทางโรงเรียนก็ไม่ต่อต้าน เพราะเข้าใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย ซึ่งตอนนี้ทางโรงเรียนก็กำลังทำความเข้าใจร่วมกันว่า จะให้ไว้ผมยาวยาวได้แค่ไหน หรือสั้นจะสั้นอย่างไร แต่หากนักเรียนคนใด อยากจะไว้ผมสั้นตามเดิมก็สามารถทำได้ ส่วนการซอยผมหรือทำสีผมนั้น ทางโรงเรียนไม่อนุญาตอย่างแน่นอน เพราะเด็กทุกคนต้องอยู่ในกรอบของระเบียบวินัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีเด็กของโรงเรียนประมาณ 50% ที่อนุรักษ์ไว้ผมสั้นอยู่
ด้าน ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับกฎระเบียบอนุญาตให้ซอยผมดังกล่าว เพราะเด็กก็คือเด็ก และไม่เข้าใจว่า ศธ. จะส่งเสริมให้เด็กแข่งขันกันแต่งตัวไปถึงไหน ซึ่งตนคิดว่าเด็กมีอย่างอื่นที่ต้องสนใจมากกว่าเรื่องนี้ เช่น เรื่องตั้งใจเรียน และจริง ๆ แล้วตนก็อยากให้กลับไปใช้ระเบียบเดิมที่กำหนดไว้คือเด็กตัดผมสั้น และทรงเกรียนเหมือนกันทุกคน เพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบ และไม่ต้องมาแข่งขันเรื่องการแต่งตัว เพราะทุกวันนี้เด็ก ๆ ก็แข่งขันกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า ก็จะต้องเป็นของที่มียี่ห้อดัง ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นอิสระมากเกินไป เด็กก็จะฟุ้งเฟ้อ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงยิ่งอันตราย
สำหรับความคิดเห็นของนักเรียน ชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีวิทยา ระบุว่า ตนไม่เห็นด้วยกับกฎดังกล่าวเช่นกัน เพราะการเป็นนักเรียนก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน และกฎก็ต้องเป็นกฎ หากยิ่งเปิดกว้างให้นักเรียนมีอิสระในเรื่องทรงผม ก็จะทำให้นักเรียนแข่งขันเรื่องแฟชั่นมากขึ้น ส่วนเด็กผู้หญิงที่รักสวยรักงาม แต่งตัวสวยคนก็จะมอง อาจจะถูกล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย แต่ถ้าเราแต่งตัวอยู่ในกฎระเบียบ คนก็จะไม่สนใจเพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก
ส่วนด้าน นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า เห็นด้วยกันกฎระเบียบใหม่ เพราะตนเองก็ตั้งใจจะไว้ผมยาว แต่ก็จะรวบผมตามที่โรงเรียนขอความร่วมมือ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
