x close

เฮ! ศธ. ปรับระเบียบทรงผมนักเรียน เลิกบังคับตัดผมเกรียน-บ๊อบติ่งหู


ทรงผมนักเรียน
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ศธ. ชี้ กฎกระทรวงยอมให้เด็กชายไว้ผมรองทรงได้อยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงก็ให้ไว้ผมยาวได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของโรงเรียน ด้าน ผบ.นรด. ยัน ไม่ปรับเปลี่ยนกฎ รด. ย้ำ ยังต้องตัดผมสั้น

            เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับแบบทรงผมของนักเรียน นักศึกษา ว่า ได้มอบให้สำนักงานปลัด ศธ. ไปดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่ามีกฎกระทรวงอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515  โดยฉบับที่ 1 พ.ศ. 2515 ระบุข้อความ ดังนี้

            1. ห้ามไม่ให้นักเรียนชายไว้ผมข้างหน้าและกลางศีรษะยาวเกิน 5 ซม. และชายผมรอบศีรษะต้องตัดเกรียนชิดผิวหนัง

            2. นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย

            ต่อมามีการแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวเพิ่มเติมจนเป็นกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2518 ระบุว่า

            1. นักเรียนชายให้ตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้าง และด้านหลังยาวเลยตีนผม

            2. นักเรียนหญิงให้ตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินก็ให้รวบให้เรียบร้อย

            นายพงศ์เทพ ยังกล่าวอีกว่า ถ้าตีความตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2515 นักเรียนชายจะต้องไว้ผมด้านข้างและด้านหลังเกรียน แต่กฎกระทรวง พ.ศ. 2518 เปลี่ยนแปลงให้นักเรียนชายไว้ผมรองทรงได้ ไม่ต้องตัดผมด้านข้างหรือด้านหลังจนเกรียน แต่ในทางปฏิบัติโรงเรียนยังคงยึดติดกับทรงผมเกรียนตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะกฎกระทรวงฉบับใหม่ เปิดโอกาสให้เด็กรองทรงได้

            ส่วนทรงผมของนักเรียนหญิงนั้น ทั้ง 2 ฉบับ กำหนดให้นักเรียนหญิงไว้ผมสั้นหรือยาวได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของโรงเรียน ซึ่งตนก็เห็นว่าเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลเช่นกัน ที่จะให้ทรงผมนักเรียนหญิงของแต่ละโรงเรียนมีความแตกต่างกันไป ตนจะให้ทาง ศธ. ทำข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไว้ผมยาวของนักเรียนหญิง เช่น ถ้าไว้ผมยาวต้องรวบผมให้เรียบร้อย และทุกโรงเรียนจะต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน อนุญาตให้นักเรียนหญิงไว้ผมสั้นหรือยาวเลยต้นคอได้ แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย

            นายพงศ์เทพ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องทรงผมนักเรียน ขณะนี้ตนได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปจัดทำหนังสือเวียนเพื่อแจ้งไปยังสถานศึกษาในกำกับของ ศธ. ทุกแห่ง เรื่องทรงผมนักเรียนนั้นต้องยึดกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 ให้นักเรียนชายไว้ทรงยาวแบบรองทรงได้ และให้นักเรียนหญิงเลือกไว้ผมสั้นหรือยาวได้

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเรียนวิชาทหารรักษาดินแดนนั้น ทาง พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) กล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 มกราคม ว่า ทางหน่วยจะไม่ปรับกฎระเบียบอนุญาตให้ไว้ผมรองทรงได้ตามกฎระเบียบกระทรวงศึกษาธิการแต่อย่างใด เพราะกฎระเบียบของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนจะฝึกระเบียบวินัยให้กับนักศึกษา ซึ่งผู้ที่สมัครเข้าเรียนต้องอยู่ในกฎระเบียบข้อนี้ และทุกประเทศก็ไม่เคยอนุญาตให้ทหารไว้ผมยาวได้อยู่แล้ว


สำหรับกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ มีใจความดังต่อไปนี้

กฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515)

         ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132
         ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515

          อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 และข้อ 11 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้

         ข้อ 1 การแต่งกาย และความประพฤติดังต่อไปนี้ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน ตามความในข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 132

         (1) นักเรียนชายไว้ผมยาว โดยไว้ผมข้างหน้าและกลางศีรษะยาวเกิน 5 เซนติเมตร และชายผมรอบศีรษะไม่ตัดเกรียนชิดผิวหนัง หรือไว้หนวดหรือเครา นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย นักเรียนใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวย

         (2) เที่ยวเร่ร่อนอยู่ในที่สาธารณะสถาน หรือทำลายสมบัติของโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือสาธารณสมบัติ

         (3) แสดงกิริยา วาจา หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่ไม่สุภาพ

         (4) มั่วสุมและก่อความเดือดร้อนรำคาญอย่างหนึ่งอย่างใด

         (5) เล่นการพนันซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายการพนัน

         (6) เที่ยวเตร่เวลากลางคืนระหว่าง 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น เว้นไว้แต่ไปกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง หรือได้รับอนุญาตจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา

         (7) สูบบุหรี่ สูบกัญชา หรือเสพสุรา ยาเสพติด หรือของมึนเมาอย่างอื่น

         (8) เข้าไปในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ หรือสถานอื่นใดซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โรงรับจำนำ หรือสถานการณ์พนันในระหว่างเวลาที่มีการเล่นการพนัน เว้นแต่จะเป็นผู้อาศัยอยู่หรือเยี่ยมญาติสถานที่นั้น

         (9) เข้าไปในงานหรืองานร่วมสังสรรค์ และงานนั้นมีการเต้นรำหรือการแสดงซึ่งไม่สมควรแก่สภาพของนักเรียน เว้นแต่ไปกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง หรืองานนั้นบิดามารดาผู้ปกครอง หรือสถานศึกษาของนักเรียนคนหนึ่งคนใดเป็นผู้จัด

         (10) เข้าไปในสถานค้าประเวณี เว้นแต่จะเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่นั้นหรือเข้าไปเยี่ยมญาติ ซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่นั้น

         (11) คบค้าสมาคมกับหญิงที่ประพฤติตนเพื่อการค้าประเวณี เว้นแต่จะเป็นญาติใกล้ชิดกับหญิงนั้น

         (12) ประพฤติตนในทำนองชู้สาว

         (13) มีวัตถุระเบิดก็ดี หรือมีอาวุธติดตัวหรือซ่อนเร้นไว้เพื่อใช้ในการประทุษร้ายก็ดี

         (14) หลบหนีโรงเรียน

          ข้อ 2 การแต่งกายและความประพฤติดังต่อไปนี้ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักศึกษา ตามความในข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132

         (1) นักศึกษาชายตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผมหรือไว้หนวด ไว้เครา นักศึกษาหญิงนุ่งประโปรงสั้นจนชายกระโปรงสูงกว่ากึ่งกลางสะบ้าหัวเขาเกิน 5 เซนติเมตร ขอบกระโปรงต่ำกว่าระดับสะดือ คาดเข็มขัดหลวมต่ำกว่าระดับขอบกระโปรงหรือแต่งกายไม่เหมาะสมกับสภาพกุลสตรีไทย นักศึกษาใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวย

         (2) สูบกัญชา หรือเสพสุรา ยาเสพติด หรือของมึนเมาอย่างอื่น

         (3) กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่ออำนาจบริหารของโรงเรียน หรือสถานศึกษาหรือบังคับขู่เข็ญ ยุยง ส่งเสริม หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษากระทำการเช่นว่านั้น

         และ (4) ความประพฤติตามข้อ 1 (2) (3) (4) (5) (8) (10) (11) (12) (13)

          ให้ไว้ ณ วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2515

          บุญถิ่น อัตถากร
          (นายบุญถิ่น อัตถากร)
          ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

          ผู้ใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

กฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518)

         ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132
         ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515

         อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 และข้อ 11 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้

         ให้ยกเลิกความในข้อ (1) ของข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

          "(1) นักเรียนชายตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้าง และด้านหลังยาวเลยตีนผม หรือไว้หนวด ไว้เครา นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย นักเรียนใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวย"

          ให้ไว้ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2518


          เกรียง กีรติกร
          (นายเกรียง กีรติกร)
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ







อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  , กระทรวงศึกษาธิการ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เฮ! ศธ. ปรับระเบียบทรงผมนักเรียน เลิกบังคับตัดผมเกรียน-บ๊อบติ่งหู อัปเดตล่าสุด 11 มกราคม 2556 เวลา 11:50:51 5,826 อ่าน
TOP