เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า คงหมดยุคไปแล้วสำหรับกระดานดำและแบบฝึกหัดเปื้อนฝุ่นชอล์ก เพราะตอนนี้ ในประเทศอังกฤษ ได้มีการคิดค้น ห้องเรียนแห่งอนาคต โดยมีโต๊ะเรียนหน้าจอระบบทัชสกรีนและมัตติยูสเซอร์ เพื่อให้นักเรียนกว่า 400 คนได้ใช้งานจริงในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยห้องเรียนนี้ มีชื่อเล่นว่า ห้องเรียนสตาร์เทรค
โครงการดังกล่าวเรียกว่า ซินเนอร์จี้เน็ต (SynergyNet) โดยเป็นการทำให้โต๊ะเรียน กลายมาเป็นเครื่องมือส่งเสริมการเรียนรู้ และเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องเรียนในเวลาเดียวกัน
สำหรับโต๊ะเรียนทัชสกรีนและซอฟต์แวร์นั้น ได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยเดอร์แฮม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า โต๊ะเรียนทัชสกรีน สามารถช่วยพัฒนาวิชาคณิตศาสตร์ ได้ดีกว่าการเรียนบนกระดาษ โดยผลการวิจัยระบุว่า การเรียนหนังสือกับโต๊ะทัชสกรีน จะทำให้รู้ว่า เพื่อน ๆ ของเด็กกำลังทำอะไรอยู่ และจะช่วยให้เด็กทุ่มความสนใจอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่ม นอกจากนี้ การเรียนกับโต๊ะเรียนทัชสกรีน ยังเป็นแนวทางใหม่ในการช่วยให้เด็กทำงานในห้องเรียนอีกด้วย
ด้านศาสตราจารย์ ลิซ เบิร์ด หัวหน้านักวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดอร์แฮม กล่าวว่า จุดประสงค์ของเราก็เพื่อกระตุ้นการเรียนภาคปฏิบัติ ของนักเรียนขึ้นไปในอีกระดับ ซึ่งเด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการแบ่งปัน แก้ปัญหา และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ มากกว่าจะนั่งฟังอยู่เฉย ๆ และการเรียนแบบนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กรู้จักปฏิบัติและยังสามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างทั่วถึง อีกทั้ง เรายังพบว่า โต๊ะเรียนทัชสกรีน จะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำงานร่วมกันแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นกับการเรียนหนังสือบนหน้ากระดาษ
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์สตีฟ ฮิกกิ้นส์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีแบบนี้ มีศักยภาพอย่างมากในการส่งเสริมการสอน เพราะจะช่วยครูในการจัดการและควบคุมการเรียนของเด็ก ทั้งที่เป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม เพื่อให้เด็กเกิดการแข่งขันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน อันจะส่งผลให้การเรียนเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วิธีการเรียนผ่านโต๊ะเรียนทัชสกรีน จะใช้การเคลื่อนไหวเพื่อใช้งาน โดยการปัดไปที่โต๊ะเรียน แล้วโต๊ะก็จะกลายเป็นหน้าจอและคีย์บอร์ดภายในตัว ซึ่งโต๊ะเรียนจะเป็นเหมือนกับไวท์บอร์ดแบบมัลติทัชขนาดใหญ่ เพื่อให้นักเรียนหลาย ๆ คน ใช้งานได้พร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรม มากกว่าจะทำงานคนเดียว
ด้านครูผู้สอน ก็จะส่งงานไปยังโต๊ะต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้ทำงานเป็นกลุ่มหรือทำงานเดี่ยว และจะมีระบบป้อนข้อมูลอัตโนมัติ ส่งตรงไปที่โต๊ะของครูทันที เพื่อที่ครูจะได้ช่วยนักเรียนเป็นรายบุคคล ในขณะที่กลุ่มก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้