แฟ้มภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
บดินทรเดชา ยังวุ่นไม่เลิก เมื่อตัวแทนกลุ่มผู้ปกครองของเด็กภาคบ่ายร้อง ศธ. ว่า ขณะนี้นักเรียนภาคบ่ายมีสถานะเหมือนนักเรียนเถื่อน ไม่เก็บค่าเรียน ไม่มีบัตรนักเรียน จึงอยากให้ทาง ศธ. สั่งการโรงเรียนรับเด็กเข้าเรียนภาคปกติในเทอม 2
เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนผู้ปกครอง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคบ่าย ของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เดินทางมาเข้าพบ นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่นักเรียนภาคบ่าย ได้รับการปฏิบัติไม่เสมอภาคกับนักเรียนภาคปกติ และขอให้ ศธ. สั่งการให้ทางโรงเรียนรับนักเรียนภาคบ่ายมาเรียนร่วมกับนักเรียนภาคปกติในเทอมที่ 2 โดยนายศักดา กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันอีกครั้ง ในวันที่ 27 กันยายน เวลา 09.00 น.
ด้านตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาการรับนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนบดินทรฯ ออกมาประท้วงขอให้โรงเรียนรับเข้าเรียนชั้น ม.4 เพราะถูกคัดออกไม่เป็นธรรม ทั้งที่สัญญาว่าจะรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียน เพราะเป็นเด็กกิจกรรม ซึ่งในที่สุดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก้ปัญหาโดยเปิดภาคบ่ายเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับนักเรียนที่ประสงค์จะเรียนที่เดิมให้กลับเข้ามาเรียน และนายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังเคยสัญญาว่า ขอเวลาให้โรงเรียนเตรียมความพร้อม เมื่อผ่านไป 1 ภาคเรียนแล้ว จะรับนักเรียนภาคบ่ายทั้งหมดเข้าระบบเป็นนักเรียนภาคปกติ แต่ถึงวันนี้นายสุวัฒน์กลับปฏิเสธว่าไม่เคยพูดเช่นนั้น ที่สำคัญตอนนี้ใกล้จะจบภาคเรียนที่ 1 แล้ว แต่ทางโรงเรียนยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา ไม่มีการทำบัตรประจำตัวนักเรียน และยังไม่ทำสมุดพกให้ ทำให้ฐานะของนักเรียนภาคบ่าย เหมือนนักเรียนเถื่อนที่อยู่ไปแบบวัน ๆ แถมตนยังได้ยินมาว่า สพฐ. เองก็ไม่มีรายชื่อนักเรียนกลุ่มนี้ในระบบ ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อจบชั้น ม.6 แล้ว จะได้รับวุฒิการศึกษาเหมือนนักเรียนทั่วไปหรือไม่
ทางด้านนายสุวัฒน์ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่เคยสัญญาว่าจะรับนักเรียนภาคบ่ายทั้ง 36 คน เข้ามาเป็นนักเรียนภาคปกติ เพราะทางโรงเรียนแค่ปฏิบัติตามคำสั่งของ สพฐ. ที่ให้รับนักเรียนกลุ่มนี้เข้าเรียนภาคบ่าย แต่ยอมรับว่าโรงเรียนยังไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษากับเด็กกลุ่มนี้ เพราะในสารบบของ สพฐ. ไม่มีนักเรียนภาคบ่ายอยู่ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกรงว่าจะขัดต่อกฎหมาย ต้องรอให้ สพฐ. มีคำสั่งมาก่อน จึงจะดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมได้
นายสุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่า เด็กกลุ่มนี้ได้เรียน และทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนนักเรียนภาคปกติ แต่ที่เด็กกลุ่มนี้ไม่ได้ทำพิธีไหว้ครูพร้อมนักเรียนปกติ ก็เพราะกว่าเด็ก ๆ จะได้เข้ามาเรียนก็กลางเดือนมิถุนายน ซึ่งผ่านพ้นพิธีไหว้ครูไปแล้ว แต่เด็กอยากได้อะไร เราก็จัดให้ อยากได้พิธีไหว้ครู พิธีรับเข็มพระเกี้ยวเราก็จัดให้ ยืนยันว่า โรงเรียนทำดีที่สุดแล้ว
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. ไม่เคยตั้งข้อรังเกียจ กีดกัน หรือแบ่งแยกเด็ก ถ้าเป็นได้ก็จะพยายามผ่อนปรนให้เด็กกลุ่มนี้ได้เปลี่ยนไปเรียนในภาคปกติ โดยเฉพาะนโยบายรับนักเรียน ม.4 ปี 2556 มีการผ่อนปรนมากขึ้น ฉะนั้น เด็กกลุ่มนี้ก็น่าจะได้รับประโยชน์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติก็ต้องให้ขึ้นกับการบริหารจัดการของทางโรงเรียน สพฐ. จะไปสั่งการให้โรงเรียนดำเนินการตามใจชอบไม่ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
