เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
ไอซีที เตรียมสั่งแท็บเล็ตล็อตที่ 2 อีก 4 แสนเครื่องในวันนี้ ขณะที่ล็อตแรกยังไม่มีการสุ่มตรวจรับรองมาตรฐาน
วานนี้ (8 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกระทรวงไอซีที เตรียมลงนามจัดซื้อแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพิ่มอีกเป็นล็อตที่ 2 จำนวน 4 แสนเครื่อง ในวันนี้ (9 กรกฎาคม) แต่ทั้งนี้ มีรายงานว่า แท็บเล็ตในล็อตแรกที่สั่งซื้อตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการตรวจรับรองมาตรฐานเลย ถึงแม้จะมีการทยอยส่งมอบไปยังโรงเรียนต่าง ๆ แล้วก็ตาม
สำหรับแท็บเล็ตล็อตแรกที่กระทรวงไอซีทีสั่งซื้อจำนวน 4 แสนเครื่องนั้น ขณะนี้ทางบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ประเทศจีน ได้ทยอยส่งมาแล้วประมาณ 46,000 เครื่อง ทางคณะกรรมการตรวจรับของของกระทรวงไอซีทียังไม่ได้เริ่มตรวจรับรองมาตรฐานแม้แต่เครื่องเดียว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุการจัดซื้อแท็บเล็ต ชี้แจงว่า เครื่องล็อตแรก 400,000 เครื่องนั้น ทางไอซีทีจะสุ่มตรวจไม่น้อยกว่า 35,000 เครื่อง แต่ทั้งนี้ ที่ยังไม่เริ่มกระบวนการตรวจเป็นเพราะว่า ต้องการรอแท็บเล็ตที่จะส่งมาในวันนี้อีกประมาณ 1 หมื่นเครื่อง เพื่อทำการสุ่มตรวจพร้อม ๆ กัน โดยจะต้องมีเครื่องที่ได้มาตรฐานไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.65 หรือ จำนวน 228 เครื่อง จึงจะผ่านมาตรฐานการตรวจสอบทั้งหมด แต่หากไม่เป็นไปตามนั้น เครื่องที่อยู่ในไทยแล้ว จะถูกส่งคืนให้บริษัทแก้ไขทันที
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และเริ่มต้นโครงการอย่างจริงจังในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขณะที่ทางคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้มีคณะกรรมการแท็บเล็ตจำนวน 14 คน โดยจะจัดหาแท็บเล็ตทั้งหมดจำนวน 9 แสนเครื่อง ในวงเงินที่เป็นงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 1.9 พันล้านบาท และตั้งเป้าว่าจะส่งมอบให้นักเรียนในจำนวน 8 แสนคน ในช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
รายงานยังระบุอีกว่า จากนั้นทางคณะกรรมการแท็บเล็ตได้ตั้งคณะทำงานอีก 2 ชุด เพื่อพิจารณาคุณสมบัติเครื่องแท็บเล็ตให้เป็นไปตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ ส่วนอีกชุดหนึ่งได้พิจารณาการจัดซื้อจัดหาโดยมีกระทรวงไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่จะดำเนินการอย่างแน่ชัด เนื่องจากปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่างรัฐมนตรีไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ
ต่อมา จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการนี้อีกครั้ง โดยปรับซื้อจากจำนวน 9 แสนเครื่อง ให้เป็น 1 ล้านเครื่อง และจากงบ 1.9 พันล้านบาท เป็นไม่เกินจำนวน 3 พันล้านบาท และให้กระทรวงไอซีทีปรับเปลี่ยนการแลกสินค้า มาเป็นการทำสัญญาโดยตรงกับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลจีนรับรอง
อย่างไรก็ตาม กำหนดการและรายละเอียดต่าง ๆ ทางไอซีที ได้เปิดเผยเพียงแค่เรื่องกำหนดคุณสมบัติเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่มีการเปิดเผยใด ๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นที่จับตามองว่า "แท็บเล็ต" นั้น จะมีปัญหาตามมาอีกหรือไม่ และเมื่อไรนักเรียนชั้น ป.1 จะได้เริ่มใช้เสียที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก