ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดยคุณ LadyBimbettes
สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนได้ออกมาประท้วง กรณีไม่ได้เข้าเรียนต่อ เนื่องจากการรับแป๊ะเจี๊ยะของผู้บริหารโรงเรียนชั้นนำที่มีการแข่งขันสูง 23 แห่ง จึงมีการร้องเรียนไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น
เย็นวานนี้ (30 พฤษภาคม) รายการเจาะข่าวเด่น จึงได้เชิญ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการกลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ขณะเดียวกันก็เชิญ นายยศรินทร์ ตลับนาค ผู้ทรงคุณวุฒิคระกรรมการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ซึ่งเครือข่ายคนดีปกป้องโรงเรียน ที่ออกมาปกป้องผู้บริหารโรงเรียนและปกป้องเด็ก ๆ ไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การที่ ภตช. ออกมาเรียกร้องให้ ปปง. ตรวจสอบการรับเงินแปะเจี๊ยะของผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 20 แห่งนั้น มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจหรือไม่
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้ชี้แจงถึงการตั้งข้อสังเกตดังกล่าวว่า ปัจจุบัน ตนเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนจะดำเนินการยื่นเรื่องจนกระทั่งมีการตรวจสอบ สำหรับกรณีแป๊ะเจี๊ยะ ตอนแรกตนไม่ได้ทราบเรื่องมาก่อนที่ผู้ปกครองรวมตัวกันไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประธานฯ ภตช. หลังจากนั้นตนจึงได้ไปดูเอกสารและรายละเอียดต่าง ๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นจริงตามที่ร้องเรียนมา พล.อ.กิตติศักดิ์ จึงสั่งให้ตนไปดำเนินการ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภตช. เอาเด็กเป็นตัวประกันนั้น นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เลยครับ ตนเพียงแต่ทำตามหน้าที่ เมื่อผิดก็ต้องเตือนว่าผิด หลังจากที่ตนเห็นนโยบาย ซึ่ง นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศเปลี่ยนแป๊ะเจี๊ยะให้เป็นเงินบริจาค เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 หลังจากนั้น ป.ป.ช. มีมติไม่เอาแป๊ะเจี๊ยะ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นนโยบายที่สวนทางกัน
เมื่อพิธีกรถามว่า มีหลักฐานอะไรให้เชื่อว่า ผู้บริหารโรงเรียน 23 แห่ง มีการรับแป๊ะเจี๊ยะ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ขณะนี้เรามีหลักฐานพยานบุคคล ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมเป็นพยานในชั้นศาลทั้งหมด เนื่องจากประกาศ ป.ป.ช. ใหม่ ซึ่งระบุว่า ใครรู้เรื่องการทุจริตเรียกรับเงินสามารถกันไว้เป็นพยานได้ ไม่ติดคุก แต่หากรู้แล้วไม่ยอมเป็นพยานมีโทษจำคุก 5 ปี และผู้รับสูงสุดมีโทษจำคุกตลอดชีวิต
นายยศรินทร์ ตลับนาค - นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังได้ชี้แจงข้อมูลรายชื่อนักเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชา 15 ห้อง สังเกตได้ว่ามีรายชื่อเด็กนักเรียนคนเดียวซ้ำกัน 2 ห้อง ซึ่งมีเป็น 10 รายชื่อ ในโรงเรียน 30 กว่าแห่ง แสดงให้เห็นว่ามีการแทรกสิทธิ์เอาไว้ให้กับหัวคะแนน เช่น นักการเมือง ข้าราชการระดับสูงที่ฝากเด็กเข้ามาในภายหลัง ซึ่ง ปปง. รับทราบเรื่องนี้แล้ว
นายยศรินทร์ ตลับนาค
ขณะที่ทางด้าน นายยศรินทร์ ตลับนาค ได้ชี้แจงก่อนว่า การที่ตนออกมาเรียกร้องในครั้งนี้คือ
1. ต้องการให้สื่อมวลชนเข้ามาตรวจสอบคุณมงคลกิตติ์ จากการที่เขาได้ดำเนินกิจกรรมนำน้อง ๆ ชาวบดินทรเดชาออกมาเรียกร้อง ซึ่งตนคิดว่าเขามีผลประโยชน์ทับซ้อน
2. การกล่าวอ้างที่คุณมงคลกิตติ์ ส่งหนังสือไปยังโรงเรียนต่าง ๆ โดยอ้างว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ป.ป.ช., ปปง. นั้นจริงหรือไม่ ในส่วนของรายชื่อนักเรียนบดินทรเดชาที่คุณมงคลกิตติ์นำมานี้ ตนคิดว่าอาจเป็นไปได้ที่นักเรียน 1 คนอาจมีการย้ายไปอยู่อีกโปรแกรมก็เป็นได้ และนอกจากนี้ รายชื่อที่ประกาศก็มีคะแนนตามท้ายด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ตนก็ต้องขอขอบคุณที่คุณมงคลกิตติ์เป็นกำลังในการตรวจสอบ แต่ก็อยากให้คุณมงคลกิตติ์รออีกสักพักหนึ่งเพื่อคอยดูผลการเยียวยาของ สพฐ. ว่ามีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหาหรือไม่ แต่ คุณมงคลกิตติ์ ได้ยื่นหนังสือไปถึง ปปง. ก่อน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องนี้ เนื่องจาก 2 โรงเรียนที่คุณมงคลกิตติ์กล่าวอ้างคือ โรงเรียนสวนกุหลาบนนท์ รับนักเรียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม และโรงเรียนพรตพิทยพยัตซึ่งตอนนี้ยังมีที่ว่างเหลืออยู่ ตนจึงสงสัยว่ามีการรับแป๊ะเจี๊ยะได้อย่างไร
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ ชี้แจงว่า โรงเรียนสวนกุหลาบนนท์เป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงมากอันดับ 1 ในจ.นนทบุรี ในปี พ.ศ. 2554 ได้รับเงินบริจาคอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 2 แสนบาท ส่วนปี พ.ศ. 2555 ได้รับเงินบริจาคถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเป็นจำนวน 66 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ควรจะให้ผู้อำนวยการสวนกุหลาบนนท์มาตอบเอง ส่วนนโยบายการรับเด็กเก่า 80 เปอร์เซ็นต์ และเด็กใหม่ 20 เปอร์เซ็นต์นั้น แต่จำนวนห้องของชั้น ม.4 ลดลงไป 2 ห้อง เพราะฉะนั้นจะต้องเอาเด็กเก่าออกไปเยอะขึ้นกว่าเดิม
นายยศรินทร์ ตลับนาค
นอกจากนี้ นายยศรินทร์ เปิดเผยต่อไปว่า ตนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า คุณมงคลกิตติ์ เคยไปทำธุรกิจประมูลงานจัดหาครูสอนภาษาต่างประเทศที่โรงเรียนสวนกุหลาบนนท์ แต่ประสบปัญหาไม่มีครูไปสอนตามสัญญา จึงไม่สามารถประมูลต่อได้และอาจสร้างความไม่พอใจให้แก่คุณมงคลกิตติ์ก็เป็นได้ ซึ่งตนอยากเรียกร้องสื่อให้ช่วยตรวจสอบประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนนี้
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ส่วนที่ตนไปประมูลจัดหาครูสอนภาษาต่างประเทศนั้นก็ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 แล้ว นอกจากนี้ธุรกิจของตนเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ซึ่งทำโอลิมปิควิชาการ ติวโอเน็ท สอนฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นอาชีพสุจริตและต้องการพัฒนาประเทศ และพร้อมที่จะให้เครือข่ายคนดีปกป้องโรงเรียนตรวจสอบตนได้อย่างเต็มที่
คลิป รายการเจาะข่าว - ร้องแป๊ะเจี๊ยะรร.ดัง
