คาด รร. กวดวิชากำไรปีนี้กระฉูด มองโอเน็ตต่อผลจบช่วงชั้นกระตุ้นเด็กวิ่งเข้าหาสถาบันติวเยอะขึ้น (ไทยโพสต์)
"กช." คาดกำไรโรงเรียนกวดวิชาปีนี้พุ่งกระฉูด นัดส่งงบดุลประจำปีส่งให้ กช.ตรวจสอบว่ามีผลกำไรเกินกว่าเพดาน 20% เพื่อได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีหรือไม่ รวมทั้งยังมองนโยบายใช้คะแนนโอเน็ตมีผลต่อการจบช่วงชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 จะทำให้เด็กวิ่งเข้าหาโรงเรียนติวมากขึ้น แนะปรับเพิ่มอัตรากำลังครูให้เต็มชั้นเรียน หาครูที่สอนเฉพาะทาง เพื่อเพิ่มคุณภาพการเรียนการสอนในห้องเรียน
นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ตามที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ มีแนวคิดจะผลักดันนโยบายการใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ให้เชื่อมโยงต่อการจบช่วงชั้นเรียนระดับชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 ในปีการศึกษา 2555 นั้น แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการผลักดันให้นักเรียนแห่เรียนกวดวิชามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าการเรียนการสอนในโรงเรียนกวดวิชามีความสนุกและเข้าใจบทเรียนได้ง่ายกว่าการเรียนในห้องเรียน รวมถึงมีคณาจารย์เฉพาะด้านที่สอนกวดวิชาอย่างครบครัน ต่างจากโรงเรียนธรรมดาที่มีหลักเกณฑ์คอยเป็นอุปสรรคทำให้ครูไม่ครบชั้น โดยเฉพาะโรงเรียนรัฐที่มีกรอบอัตรากำลังเป็นอุปสรรค ทำให้ครูต้องสอนหลายชั้นเรียน และต้องมีภาระงานช่วยโรงเรียนอีก
เลขาธิการ กช.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดการจดทะเบียนจัดตั้งสถาบันกวดวิชากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในปีนี้ หากเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักเรียนได้แห่เรียนในโรงเรียนกวดวิชาที่จัดตั้งอยู่แล้ว ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่างบดุลประจำปีของโรงเรียนกวดวิชาในปีนี้ต้องมีผลกำไรมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาแน่นอน แต่ทั้งนี้ ผลกำไรดังกล่าวก็ต้องไม่สูงกว่าเกณฑ์กำหนด คือผลกำไรต้องไม่สูงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของงบดุลประจำปีด้วย แต่หากมีผลกำไรเกินเกณฑ์ที่กำหนด เข้าใจว่ากรมสรรพากรคงมีมาตรการเก็บภาษีเพิ่มเติมเอง
นายชาญวิทย์กล่าวต่อว่า ปกติ สช.ได้กำหนดให้โรงเรียนกวดวิชาที่จดทะเบียนถูกต้องรายงานงบดุลประจำปีมาภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อจะทราบว่าโรงเรียนกวดวิชาเฟื่องฟูเท่าใดรวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้โรงเรียนกวดวิชาเหล่านี้ค้ากำไรเกินควร แต่หากมีการปลอมแปลงบัญชีก็เป็นเรื่องที่กรมสรรพากรจะไปตรวจสอบและลงโทษต่อไป
"การจะห้ามไม่ให้นักเรียนแห่ไปเรียนกวดวิชามากขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้นั้น หน่วยงานของรัฐคงต้องไปปรับเพิ่มอัตรากำลังครูให้ครบทั้งชั้นเรียน รวมถึงต้องรองรับความเฉพาะทางให้ครอบคลุมทุกสาขา และต้องไม่ให้ครูมีภาระงานช่วยโรงเรียนด้วย จะได้มีเวลาสอนเต็มที่และมีคุณภาพไม่ต่างกับการไปเรียนกวดวิชา" นายชาญวิทย์กล่าว.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
