คณะกรรมการเยียวยา สพฐ. ขอโรงเรียน 13 แห่ง เปิดที่นั่งรับเด็กโรงเรียนบดินทรเดชา ที่ไม่ได้เข้าเรียนต่อ พร้อมประกาศรายชื่อภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
วันนี้ (23 พฤษภาคม) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า หลังจากที่นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) อดข้าวเพื่อประท้วงหลังจากถูกตัดสิทธิเข้าเรียนต่อในชั้น ม.4 นั้น ทำให้ที่ประชุมได้ทบทวนนโยบายในการรับนักเรียนในสังกัด สพฐ. เช่น กรณีรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษ ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า เงื่อนไขใดที่ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ และควรปรับแก้ไขให้เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนในเรื่องอื่น ๆ เช่น เรื่องการขยายห้องเรียน ซึ่ง สพฐ. อาจพิจารณาผ่อนคลายเรื่องการเพิ่มขยายห้องเรียนให้เป็นไปตามความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองมากขึ้น โดยมอบหมายให้คณะกรรมการยกร่างนโยบายและแนวปฏิบัติ เป็นผู้เร่งดำเนินการ และนำมาเสนอ สพฐ. ภายในเดือนกันยายนนี้
ขณะที่นักเรียนทั้ง 57 คน ยืนยันที่จะไม่ไปโรงเเรียนคู่ขนาน ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง โรงเรียนเทพลีลา และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา แม้โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้แล้วก็ตาม โดยผู้ปกครองของนักเรียนกล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเยียวยา และรอผลชี้ขาดในวันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ โดยนักเรียนที่คณะกรรมการเยียวยารับพิจารณา แบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กที่ได้รับสิทธิตามหลักเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด, กลุ่มเด็กที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์, และกลุ่มเด็กที่ไม่ใช่นักเรียน ม.3 ของโรงเรียนเดิม แต่ผู้ปกครองอยากให้เข้าเรียน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายสายัณห์ รุ่งป่าสัก ผอ.สพฐ.เขต 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยากรณีเด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)ประท้วงสถานศึกษาไม่รับเข้าเรียนต่อที่เดิม ว่า วันนี้ (23 พฤษภาคม) ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการและเชิญตัวแทนโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร มาเพื่อขอร้องให้เพิ่มที่นั่งให้กับนักเรียนส่วนนี้ที่ยังไม่มีที่เรียน ซึ่งมีโรงเรียนจำนวน 13 แห่ง ยอมรับเด็กเหล่านี้ ซึ่งยอดทั้งหมดประมาณ 50 คน ส่วนทางโรงเรียนบดินทรเดชานั้น สามารถเรียกได้เพิ่มอีกเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งจะรับตามเกณฑ์คะแนน อาจจะไม่อยู่ในกลุ่มเด็กที่ออกมาประท้วง โดยเราจะประกาศผลให้ทราบภายในช่วงเย็นวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ทั้งทางโรงเรียนและเว็บไซด์ สพฐ. และเข้ารายงานตัว ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหา ผอ.โรงเรียน ทุจริตนั้น เป็นส่วนของกระทรวงศึกษาธิการที่ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึง 2 ชุด โดยทาง สพฐ.เขต 2 เอง ก็มีหลักฐานที่เป็นหลักเกณฑ์สัดส่วนการรับนักเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วย
ทางด้าน นายณัฐภัทร พันธเทวินธร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กล่าวว่า การพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อมีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว หากเพื่อนถูกตัดสิทธิ์จริง ต้องได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้าไม่สามารถสอบเข้าได้ก็ควรยอมรับความจริง เนื่องจากการชุมนุมประท้วงส่งผลต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียน จึงไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้
เช่นเดียวกับ นางสำเนียง รื่นรมย์ ผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งเปิดเผยว่า เห็นใจผู้ชุมนุมทุกคน แต่เด็กต้องพิจารณาตัวเองด้วยว่ามีผลการเรียนและความประพฤติที่กำหนดไว้หรือไม่ และโดยส่วนตัวแล้ว มั่นใจในความโปร่งใสของผู้อำนวยการโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายสายัณห์ รุ่งป่าสัก ผอ.สพฐ.เขต 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยากรณีเด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)ประท้วงสถานศึกษาไม่รับเข้าเรียนต่อที่เดิม ว่า วันนี้ (23 พฤษภาคม) ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการและเชิญตัวแทนโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร มาเพื่อขอร้องให้เพิ่มที่นั่งให้กับนักเรียนส่วนนี้ที่ยังไม่มีที่เรียน ซึ่งมีโรงเรียนจำนวน 13 แห่ง ยอมรับเด็กเหล่านี้ ซึ่งยอดทั้งหมดประมาณ 50 คน ส่วนทางโรงเรียนบดินทรเดชานั้น สามารถเรียกได้เพิ่มอีกเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งจะรับตามเกณฑ์คะแนน อาจจะไม่อยู่ในกลุ่มเด็กที่ออกมาประท้วง โดยเราจะประกาศผลให้ทราบภายในช่วงเย็นวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ทั้งทางโรงเรียนและเว็บไซด์ สพฐ. และเข้ารายงานตัว ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหา ผอ.โรงเรียน ทุจริตนั้น เป็นส่วนของกระทรวงศึกษาธิการที่ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึง 2 ชุด โดยทาง สพฐ.เขต 2 เอง ก็มีหลักฐานที่เป็นหลักเกณฑ์สัดส่วนการรับนักเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วย
ทางด้าน นายณัฐภัทร พันธเทวินธร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กล่าวว่า การพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อมีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว หากเพื่อนถูกตัดสิทธิ์จริง ต้องได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้าไม่สามารถสอบเข้าได้ก็ควรยอมรับความจริง เนื่องจากการชุมนุมประท้วงส่งผลต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียน จึงไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้
เช่นเดียวกับ นางสำเนียง รื่นรมย์ ผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งเปิดเผยว่า เห็นใจผู้ชุมนุมทุกคน แต่เด็กต้องพิจารณาตัวเองด้วยว่ามีผลการเรียนและความประพฤติที่กำหนดไว้หรือไม่ และโดยส่วนตัวแล้ว มั่นใจในความโปร่งใสของผู้อำนวยการโรงเรียน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
