รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แจงกรณีให้ผู้ปกครองบริจาคเงินไม่ใช่เพื่อแลกกับการให้เด็กเข้าเรียน เพราะยังไงก็ต้องมีการสอบแข่งขันเสียก่อนถึงจะได้เข้าเรียน
จากกรณีที่ นายอำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ ได้ทำจดหมายขอให้ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ยกเลิกนโยบายเปิดห้องเรียนเพิ่มเพื่อรองรับโควต้านักเรียนที่ผู้ปกครองบริจาคให้กับโรงเรียนดังในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และขู่จะยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการและเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นั้น
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสุชาติ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนโยบายที่ให้ผู้ปกครองบริจาคเงินนั้นไม่ใช่เพื่อใช้แลกที่นั่งให้เด็กได้เข้าเรียน เพราะเด็กที่ผู้ปกครองบริจาคเงินให้ต้องมีการสอบแข่งขันเสียก่อน หากขาดคุณสมบัติทางโรงเรียนก็ไม่สามารถรับเข้าศึกษาต่อได้ ส่วนกรณีที่ถูกกลุ่มผู้ปกครองยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้นก็พร้อมชี้แจ้ง
ส่วนทางด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ก็ได้ออกมากล่าวเช่นกันว่า เร็ว ๆ นี้ ตนคงต้องเข้าพบกับนายสุชาติ เพื่อรับทราบนโยบายด้วยตัวเอง และยอมรับว่ายังไม่แน่ใจในเจตนาของนายสุชาติว่าจะให้ทาง สพฐ. ดำเนินการในรูปแบบใด เพราะได้ออกหลักเกณฑ์การรับนักเรียนประจำปีการศึกษา 2555 ให้ทางโรงเรียนปฏิบัติไปแล้ว ซึ่งโดยทั่วไป สพฐ. ได้เปิดโอกาสให้โรงเรียนขยายห้องเรียนพิเศษได้ แต่ถ้าจะเปิดให้บริจาคแลกเข้าเรียนนั้น คงต้องขอทราบนโยบายให้แน่ชัดก่อน
ทั้งนี้ นางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ได้ออกมาพูดอีกว่า หากการได้เข้าเรียนสัมพันธ์กับเงินบริจาค ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามหลักการสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเป็นการตัดโอกาสเด็กที่มีความสามารถ แต่ฐานะทางบ้านไม่เอื้อต่อการเข้าเรียน ถือว่าเป็นการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ภาครัฐควรจะสนับสนุนงบประมาณในการจัดการศึกษาอย่างเพียงพอ มิใช่ให้โรงเรียนเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม