x close

เผยเด็กไทยส่วนใหญ่ ไม่รักการอ่าน หมกมุ่นแต่ทีวี-เกม!





เด็กไทยไม่รักอ่านหมกมุ่นทีวี-เกม! (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เผยเด็กไทยใช้เวลาว่างอ่านหนังสือน้อยลง อ่านเฉลี่ยวันละ 39 นาที แต่หมกมุ่นดูทีวี เล่นเกม แชทมือถือ วันละหลายชั่วโมง เบียดบังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ดึงชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่เด็ก

          นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะมีการจัดงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่านของเด็กและเยาวชนไทยให้มากขึ้น สร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับสถานการณ์การอ่านของเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบัน พบว่า มีการใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือน้อยลง ตัวเลขจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติครั้งล่าสุด พบว่า เด็กและเยาวชนใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 39 นาที เดิมเคยใช้เวลาอ่านเฉลี่ยวันละ 50 นาที ส่วนจำนวนคนที่ใช้เวลาว่างอ่านหนังสือยังลดลงประมาณ 3% ในขณะที่ผู้ใหญ่กลับมีสถิติการใช้เวลาอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น

          นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สาเหตุที่เด็กไทยใช้เวลาว่างอ่านหนังสือน้อยลงเกิดจากการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เบียดบังเวลาอ่านหนังสือ ในแต่ละวันเด็กไทยใช้เวลาดูโทรทัศน์วันละ 3-6 ชั่วโมง เล่นเกมวันละ 1-2 ชั่วโมง และพูดคุยโทรศัพท์ แชทผ่านทางมือถือวันละ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งการใช้โทรศัพท์เป็นภัยคุกคามการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในด้านการอ่านหนังสือและค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นแนวทางการส่งเสริมให้เด็กหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น ก็จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงเวลาการคุยโทรศัพท์เปลี่ยนมาอ่านหนังสือให้ได้ ตนคิดว่าถ้าไม่เร่งแก้ปัญหานี้ก็จะยิ่งทำให้เด็กไทยอ่านหนังสือน้อยลงไปอีก

          "เราไม่ควรปล่อยให้เด็กไทยหมกมุ่นอยู่กับการใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินความจำเป็น หรือไม่เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพิ่มเติมสติปัญญา โรงเรียนและครอบครัวจะต้องเป็นกำลังสำคัญในการปลูกฝังค่านิยมรักการอ่าน โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองและครูต้องรู้จักแนะนำหนังสือให้แก่เด็ก เพื่อลดเวลาการใช้เวลาว่างดูโทรทัศน์ เล่นเกมและแชทมือถือ และเพิ่มเวลาอ่านหนังสือให้มากขึ้น" นายวรพันธ์เผย

          ที่ผ่านมาสมาคมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยรักการอ่านตั้งแต่ขั้นปฐมวัย โดยการจัดงานหนังสือถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ยังไม่จัดแบบทั่วถึง เนื่องจากพื้นที่จัดงานหนังสือยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และเขตเมืองใหญ่ ๆ ในขณะที่พื้นที่นอกเขตเมืองยังไม่สามารถเข้าถึงหนังสือดีและมีราคาถูก เป็นสาเหตุให้ตัวเลขการใช้เวลาอ่านหนังสือของเด็กไทยลดลง เป็นยังส่งผลต่อทักษะความสามารถในการอ่านและการเขียนแย่ลงไปอีกด้วย

          นายวรพันธ์ กล่าวอีกว่า นโยบายส่งเสริมการอ่านให้เด็กนั้นจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นเข้าหาเด็กในพื้นที่ห่างไกลที่อยู่อาศัยนอกเขตเมือง เพื่อเป็นการกระจายหนังสือให้มากขึ้น โดยจะต้องมีการจัดงานหนังสือทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ การจัดกิจกรรมฝึกอบรมครูและบรรณารักษ์ให้มีเทคนิคในการแนะนำหนังสือแก่เด็ก ช่วยกระตุ้นให้เด็กตื่นตัว และเพิ่มสถิติการยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านมากขึ้น การส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน โดยเพิ่มจำนวนห้องสมุดชุมชนนอกเขตเมือง ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายซื้อหนังสือ จึงต้องเน้นให้เด็กใช้เวลาอยู่กับการเข้าห้องสมุดให้มากขึ้น ต้องปรับปรุงการบริหารจัดการห้องสมุดให้มีความทันสมัย น่าเข้าไปใช้บริการ ตกแต่งมุมแนะนำหนังสือใหม่ตลอดเวลา

          "ส่วนแนวคิดในการจัดงานเทศกาลหนังสือเด็กครั้งนี้ คือ อ่านสนุก ปลุกจินตนาการ เพราะจากผลสำรวจที่พบว่า เด็กใช้เวลาดูโทรทัศน์มากเกินไปทำให้ไม่มีการใช้จินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นจึงต้องให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสหนังสือที่จะช่วยปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นจินตนาการได้ เช่น หนังสือนิทานเมื่ออ่านแล้วก็จะเชิญชวนเด็ก ๆ เข้าร่วมกิจกรรมพับกระดาษเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ตามจินตนาการของตัวเองโดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สอน" นายวรพันธ์กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยเด็กไทยส่วนใหญ่ ไม่รักการอ่าน หมกมุ่นแต่ทีวี-เกม! อัปเดตล่าสุด 12 กรกฎาคม 2554 เวลา 14:49:37 1,891 อ่าน
TOP