วัดมาตรฐานศูนย์นอกที่ตั้งมอส.ช่วยนศ. (ไทยโพสต์)
ประธานคณะกรรมการควบคุม มอส.เผยยังต้องเยียวยา นศ.ป.บัณฑิตนอกศูนย์ที่ตั้ง เบื้องต้นอาจต้องเข้าไปตรวจวัดมาตรฐานการเรียนการสอน 125 ศูนย์ก่อน ถ้าศูนย์ไหนปรับปรุงไม่ได้เตรียมปิด และส่ง นศ.เข้าเรียนในศูนย์ที่ตั้งขอนแก่น เตรียมเสนอแนวทางให้ คกก.ควบคุมพิจารณา 22 มิ.ย.นี้ "องค์กร" ยุให้ นศ.ที่หลงเข้าไปเรียนศูนย์เถื่อน ฟ้องเอาผิดอดีตผู้บริหาร มอส. ส่วน "เพิ่ม หลวงแก้ว" หายตัว ถูกเปิดข้อมูลเป็นหนึ่งใน ผอ.ศูนย์นอกที่ตั้งด้วย
สืบเนื่องจากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) คณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ สกอ. และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กรณีการซื้อขายใบประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) ของมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) มีมติร่วมกันว่า จะมีการช่วยเหลือเยียวยานักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิต ที่เรียนในที่ตั้ง จำนวนกว่า 100 คนเท่านั้น แต่จะไม่ช่วยเหลือเยียวยานักศึกษาที่เรียนในศูนย์นอกที่ตั้ง จำนวน 2,000 กว่าคน จาก 125 ศูนย์ โดยอ้างว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น ทำให้ไม่สามารถรับรองสิ่งที่ผิดกฎหมายเดิมให้ถูกได้ แต่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ออกมาระบุว่ายังจะช่วยเหลือเยียวยานักศึกษาที่เรียนในศูนย์นอกที่ตั้ง แต่เฉพาะในกรณีที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและเรียนครบตามหลักสูตรเท่านั้น
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายสมนึก พิมลเสถียร ประธานคณะกรรมการควบคุมการดำเนินงาน มอส. กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมยังคงไม่ตัดสิทธิ์การเยียวยานักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิต ที่เรียนในศูนย์นอกที่ตั้ง ซึ่งในการดำเนินการต่อไปคือ ต้องตรวจสอบข้อมูลจากหลายฝ่ายให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งก็ต้องรวมถึงการตรวจวัดมาตรฐานศูนย์นอกที่ตั้งด้วย เพื่อจะพิจารณาว่าศูนย์ ไหนจะมีมาตรฐานพอที่จะเปิดการเรียนการสอนต่อไปได้ โดยจะไม่มีการรับนักศึกษาเพิ่ม เพื่อให้นักศึกษาที่เรียนอยู่เรียนจนจบอย่างมีมาตรฐาน และในประเด็นนี้ก็ต้องไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุม ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งในวันเดียวกันก็จะมีการสรุปข้อมูลทั้งหมด เพื่อจะดำเนินการตัดสินยุบหรือไม่ยุบมหาวิทยาลัย และการอนุมัติจบหลักสูตรให้นักศึกษาที่มีหลักฐานครบตามเกณฑ์เป็นชุดแรกด้วย
"เราคงรับตามมติ รมว.ศึกษาธิการ ที่ให้เยียวยานักศึกษาที่เรียนในศูนย์นอกที่ตั้งด้วย โดยขณะนี้จะไปช่วยเหลือในการเพิ่มมาตรฐานการเรียนการสอนในศูนย์นอกที่ตั้งเถื่อนของ มอส. ซึ่งขณะนี้มีอยู่มาก โดยต้องเข้าไปดูว่าไม่มีมาตรฐานขนาดไหน และจะต้องเพิ่มมาตรฐานส่วนไหนไปบ้าง เพื่อให้นักศึกษาที่เรียนอยู่ได้เรียนจบอย่างมีมาตรฐานไปก่อน ซึ่งหากว่าเพิ่มมาตรฐานไปแล้วยังทำไม่ได้ ก็ต้องพิจารณาให้ปิดทันที และก็ต้องย้ายนักศึกษาที่เรียนอยู่มาเรียนใน มอส.ที่ขอนแก่นแทน ซึ่งนักศึกษาคนใดไม่สะดวกจะย้ายมา อันนี้ก็ได้ไปพูดคุยกับนักศึกษาอีกที" นายสมนึกกล่าว
ขณะที่ นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำหรับนักศึกษาที่เรียนในศูนย์นอกที่ตั้งของ มอส.ที่ยังเรียนไม่ครบหรือที่เรียนศูนย์ที่ไม่ถูกกฎหมายนั้น จะยังได้รับการเยียวยาอยู่ตามคำสั่งนายชินวรณ์ เพียงแต่ตอนนี้อยู่ในกระบวนการก่อนเยียวยา โดยจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลนักศึกษาก่อนว่า มีใครเรียนครบตามหลักสูตรหรือไม่ และหากว่าครบตามที่กำหนดก็จะสามารถเยียวยาได้ ไม่ใช่นักศึกษาบอกว่าเรียนครบแล้วจะเยียวยาได้เลย มันจะเสี่ยง ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบก่อนที่จะเยียวยาก็อาจต้องใช้เวลานาน ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่จะผสานข้อมูลร่วมกัน เพื่อให้นักศึกษาได้รับการเยียวยาได้อย่างรวดเร็วด้วย
"สำหรับระยะเวลาการตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะเยียวยานักศึกษา ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน และส่งผลให้นักศึกษาเสียหายตามมานั้น ผมคิดว่าก็ต้องไปโทษอดีตผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องของ มอส. ที่ยกเลิกหนังสือรับรองนักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิตทั้งหมด แทนที่จะยกเลิกเฉพาะส่วนที่ผิด ซึ่งในส่วนนี้ทำให้นักศึกษาทั้งหมดได้รับความเสียหาย ไม่อย่างนั้นขณะนี้อาจมีนักศึกษาบางส่วนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไปแล้ว" นายองค์กรกล่าว
เลขาธิการคุรุสภากล่าวอีกว่า หากนักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิตของ มอส.คนใดได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ก็ขอให้ไปดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดกับผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง มอส. เพื่อเราจะสามารถช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว เพราะขณะนี้ยังไม่มีนักศึกษาคนใดไปฟ้องร้องเลย เราจึงไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด เพราะนักศึกษามัวแต่จะรอว่าจะมีการเยียวยาโดยการจ่ายเงิน หรือรอให้ได้ใบ ป.บัณฑิตเท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับที่ประชุมบอร์ดคุรุสภา ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ จะการมีตัดสินชี้ขาดว่าคุรุสภาจะเอาผิดหรือไม่เอาผิดอดีตผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง มอส.ฐานใช้เอกสารเท็จในการมายื่นขอใบอนุญาตครู และจะรวมไปถึงการดำเนินการเอาผิดกรณีนักศึกษา 11 คน ที่มาสารภาพว่าซื้อใบ ป.บัณฑิต โดยไม่มีการเรียนการสอนเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการตรวจสอบคณะกรรมการคุรุสภา (บอร์ด คุรุสภา) บางคน ที่อาจไปมีส่วนร่วมในการเปิดศูนย์นอกที่ตั้ง หรืออาจเข้าไปมีผลประโยชน์ของ มอส.นั้น ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าเป็นนายเพิ่ม หลวงแก้ว ประธานคณะอนุกรรมการกฎหมายและระเบียบ และในฐานะกรรมการคุรุสภาที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดศูนย์นอกที่ตั้ง มอส. ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อนายเพิ่มทางโทรศัพท์และไปหาที่ห้องทำงานก็ไม่พบเจ้าตัว.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก