นักวิชาการสายมนุษย์ฯ-สังคมขาดแคลนหนัก (ไทยโพสต์)
"สุเมธ" ระบุไทยยังขาดแคลนนักวิชาการสายมนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์ระดับปริญญาเอกจำนวนมาก เหตุในช่วง 15 ปี เน้นส่งเสริมนักวิชาการสายวิทย์ฯ เพลินจนลืมสายสังคม
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขอตำแหน่งทางวิชาการสายรับใช้สังคม ว่า ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะจัดสัมมนาโดยนำตัวอย่างผลงานทางวิชาการทางด้านสังคมมาหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การขอเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งตามหลักเกณฑ์โดยทั่วไปการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ต้องมีผลงานตีพิมพ์ทางวารสารระดับนานาชาติ และต้องเป็นที่ยอมรับทางวิชาการของคนทั่วไป แต่งานวิจัยท้องถิ่นยังมีปัญหาเรื่องการยอมรับ ดังนั้นจึงต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลและตรวจสอบ
ซึ่งประเด็นที่จะต้องวิเคราะห์ คือตัวชี้วัดผลกระทบด้านสังคมที่จะต้องดูว่าควรจะมีอะไรบ้าง เพื่อนำมาใช้ในการประเมิน และกำหนดเงื่อนไขผลงานที่จะต้องตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ และจะต้องสามารถใช้อ้างอิงในระดับนานาชาติได้ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนำมาใช้พิจารณาการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการในสายสังคมได้ภายในปี 2554 นี้ อย่างไรก็ตาม หากสามารถกำหนดหลักเกณฑ์เรียบร้อย เชื่อว่าจะทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ที่ดูแลการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จะเกิดความตื่นตัวในเรื่องนี้
นายสุเมธกล่าวอีกว่า ปัจจุบันถือว่าประเทศไทยยังขาดแคลนนักวิชาการในสายมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะระดับปริญญาเอก เนื่องจากตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา เราเน้นส่งเสริมและให้ทุนเรียนต่อเฉพาะสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แพทย์และเกษตรเท่านั้น ดังนั้นขณะนี้ สกอ.จึงพยายามกลับมาให้ทุนนักศึกษามาเรียนสายสังคมเพิ่มขึ้น
"ปัจจุบันนักวิชาการสายสังคมศาสตร์ถือว่าเป็นสาขาที่ขาดแคลน แม้จะให้ทุนนักศึกษาปริญญาโทเพื่อเรียนต่อปริญญาเอกก็ยังหาคนมาเรียนยาก เพราะคนเก่งๆ ที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาเอกทางด้านนี้มีน้อย ดังนั้น สกอ.จึงต้องเริ่มปั้นคนเก่งกันตั้งแต่เริ่มต้นโดยให้ทุนเรียน ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีต่อเนื่อง จนถึงระดับปริญญาเอก" นายสุเมธกล่าว.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก