x close

ถอนใบอนุญาตครู ป.บัณฑิต มอส.794คน



ถอนใบอนุญาตครูป.บัณฑิตมอส.794คน (ไทยโพสต์)

          "องค์กร" เผยที่ประชุม กมว.มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู นักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิต ของ ม.อีสาน 794 ราย 3รุ่น (51-53) ชี้การเพิกถอนฯ จะไม่ตัดสิทธินักศึกษา ให้มาขอใบอนุญาตใหม่ได้อีกครั้ง ถ้า มอส.ส่งชื่อมาใหม่แล้วยังไม่ตรงกับข้อมูลที่คุรุสภามี ก็จะไม่ออกใบอนุญาตฯ ให้ ขณะที่ "ชินวรณ์" ระบุ ได้ลงนามขอความเห็นชอบ ครม.เพื่อตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อไปตรวจสอบการซื้อขายใบปริญญาแล้ว ชี้หากพบว่ามีความผิดจริงอาจถึงขั้นปิดมหา’ลัยได้

          นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ในวันที่ 9พ.ค.ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณารายชื่อนักศึกษาที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจากคุรุสภาไปแล้ว ตามหนังสือของมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) ที่แจ้งยกเลิกการรับรองผลการศึกษา เพื่อจะเพิกถอนใบอนุญาตฯ ดังกล่าวของบัณฑิต มอส. ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตฯ ของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) มอส. จำนวน 794 ราย เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตฯ กรณีไม่มีวุฒิปริญญาการศึกษา หรือเทียบเท่า ตามบทบัญญัติในมาตรา 49 แห่ง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะทำหนังสือแจ้งคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตฯ ส่งไปให้นักศึกษาดังกล่าวให้รับทราบ

          สำหรับนักศึกษาที่ได้รับใบอนุญาตฯ ไปแล้วและถูกเพิกถอน จำนวน 794 รายนั้น ไม่ได้มีได้เพียงนักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิตที่จบปี 2553 (รุ่น 3) เท่านั้น แต่ยังมีนักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิต ที่จบปี 2551, 2552 (รุ่น1, 2) ที่ตกค้างรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นเพราะ มอส.ได้เสนอรายชื่อขอใบอนุญาตฯ กับคุรุสภาในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ ตนคาดว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเมื่อทราบข่าวการเพิกถอนใบอนุญาตฯ จากคุรุสภาแล้ว ก็จะเข้าติดต่อกับมหาวิทยาลัยเพื่อจะขอหนังสือรับรองผลการศึกษากลับมาขอใบอนุญาตฯ กับคุรุสภาอีกครั้ง ทั้งนี้ ตนก็จะดูว่า  มอส.จะส่งรายชื่อนักศึกษาที่เรียนจริงและถูกขั้นตอนมากี่คน ซึ่งตนจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงเป็นรายคนไป และถ้าหากรายชื่อที่ส่งมาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่คุรุสภามี ก็จะไม่พิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ได้ และถ้าส่งรายชื่อมาแล้วตรงก็สามารถออกใบอนุญาตฯ ทันที
 เลขาฯ คุรุสภาเปิดเผยว่า กรณีการเพิกถอนใบอนุญาตฯ ครั้งนี้ เป็นการเพิกถอนคำสั่งทางการปกครอง ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการเพิกถอนตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ที่จะทำให้นักศึกษาหมดสิทธิได้ใบอนุญาตฯ ในระยะ 5 ปี เพราะฉะนั้น มอส.ยังสามารถรวบรวมรายชื่อนักศึกษาที่คิดว่าเรียนจริงส่งมายังคุรุสภาได้ ขณะที่วันนี้ คุรุสภายังได้นัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อจะส่งมอบข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ดีเอสไอพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ 

          "ผมจะยังไม่ดำเนินคดีอาญากับทาง มอส. เพราะผมรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด แม้ขณะนี้ผมจะมีพยานหลักฐานอยู่แล้ว แต่ต้องการให้หลักฐานแน่นหนาและมากที่สุด เวลายื่นฟ้องจะได้ไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงยังไม่รีบร้อนดำเนินการไปก่อน" เลขาฯ คุรุสภากล่าว  

          ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้ลงนามทำหนังสือไปถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบให้ ครม.ได้ตั้งคณะกรรมการกลางชุดใหญ่ที่จะเข้าไปตรวจสอบ โดยคณะกรรมการกลางชุดนี้จะประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการติดตามตรวจสอบซื้อขายใบปริญญา อาทิ ตัวแทนจาก ศธ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นต้น 

          รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า หากเรามีคณะกรรมการกลางชุดนี้เข้ามาแก้ปัญหาก็จะสามารถติดตามหน่วยงานอื่นที่นอกเหนือจากการดูแลของ ศธ.ได้ ซึ่งจะเป็นผลในการดำเนินการจัดระบบระเบียบไม่ให้มีปัญหาการออกใบปริญญาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรตลอดจนการซื้อขายใบปริญญาบัตร อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปีการศึกษาหน้าเป็นต้นไป ศธ.จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ หากพบว่ามหาวิทยาลัยไหนทำผิดก็จะสั่งปิด สั่งควบคุม หรือหากเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุคคลใด ก็จะสั่งดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป 

          "ผมเห็นว่ากระบวนการการซื้อขายใบปริญญาต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขออำนาจจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไป" นายชินวรณ์กล่าว.



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถอนใบอนุญาตครู ป.บัณฑิต มอส.794คน โพสต์เมื่อ 10 พฤษภาคม 2554 เวลา 03:16:16
TOP