ศธ.ออกกฎอีก 7 ข้อห้ามโรงเรียนตุกติกรับเด็ก ม.1 (ไทยโพสต์)
"ชินวรณ์" ตอกย้ำกฎเหล็กรับนักเรียนครั้งแรกไม่พอ ออกกฎใหม่อีก 7 ข้อ ควบคุมการรับเด็กในเงื่อนไขพิเศษ ระบุชัดให้สิทธิ์เด็กกลุ่มไหนอย่างไร โดยเน้นเด็กด้อยโอกาส หวังป้องกัน โรงเรียนเล่นตุกติก พร้อมลงพื้นที่ตรวจรับนักเรียนวันเสาร์ที่ 12 มี.ค.นี้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการรับนักเรียนของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2554 ที่มี รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดรายละเอียดในกรณีการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษให้ชัดเจน
โดยต้องเป็นนักเรียนที่มีคุณลักษณะดังนี้
1.เป็นนักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่า กันในลำดับสุดท้าย
2.เป็นนักเรียนที่มีข้อตกลงในการจัดตั้งโรงเรียน
3.เป็นนักเรียนที่เป็นผู้ ยากไร้และด้อยโอกาส
4.เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติ หรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์เป็นพิเศษ
5.เป็นนักเรียน โควตาตามข้อตกลงของโรงเรียนคู่สหกิจหรือคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย
6.เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูหรือบุคลากรของโรงเรียน
7.เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อ เนื่อง
ทั้งนี้การรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักการ 3 ข้อ คือ
1.ต้องไม่มีการรับฝาก และไม่เรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์อื่นใด
2.บุคคลหรือ องค์กรที่เสนอชื่อนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ ต้องมีความเกี่ยวพันโดยตรงกับ นักเรียน
3.ไม่ให้มีการแบ่งโควตาไปรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ
ทั้งนี้ที่ประชุม ได้มอบให้ สพฐ.ทำบันทึกความเข้าใจส่งไปยังสถานศึกษาทุกแห่ง และกำชับให้คณะกรรมการฯ ช่วยกันสร้างความเข้าใจด้วย ดังนั้นการรับนักเรียนปีนี้ขอให้ผู้ปกครองได้ตัดสินใจในการเลือกเส้นทางให้ แก่บุตรหลานได้เรียนตามความสามารถ
ด้านนายสุขุมกล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงการรับสมัครนักเรียนนั้น คณะกรรมการติดตามฯ จะเดินสายตรวจสอบ สังเกตการณ์การรับสมัคร พร้อมทั้งสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองทั่วประเทศ และจะมีการประชุมสรุปผลหลังวันที่ 16 มี.ค. รวมถึงตรวจเยี่ยมในวันสอบคัดเลือก 19 มี.ค. และวันที่ 27 มี.ค.ซึ่งเป็นวันจับสลาก คณะกรรมการติดตามฯ ก็จะร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และคณะกรรมการสถานศึกษา สังเกตการณ์ในวันดังกล่าวด้วย จากนั้นเมื่อมีการรับนักเรียนแล้วเสร็จสถานศึกษาที่มีการอัตราการแข่งขันสูง 369 แห่ง จะต้องส่งรายชื่อนักเรียนทั้งในประเภทสอบคัดเลือก และเงื่อนไขพิเศษมายัง สพฐ. เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการติดตามฯ ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นเมื่อมีการรายงานตัวแล้วก็จะมีการจัดส่งรายชื่อกลับมาให้ตรวจสอบอีก ครั้งเพื่อป้องกันการเปลี่ยนตัว เนื่องจากอาจมีนักเรียนจำนวนหนึ่งสละสิทธิ์ และสวมชื่อแทน
"แนวทางปฏิบัติการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษทั้ง 7 ข้อ ต้องทำภายใต้หลักการการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 3 ข้อข้างต้น ซึ่งที่ผ่านมาคำว่าเงื่อนไขพิเศษสถานศึกษาได้มีการตีความกันหลากหลาย คณะกรรมการติดตามฯ จึงต้องมากลั่นกรองและทำกรอบที่ชัดเจนให้สถานศึกษาสามารถ ปฏิบัติได้โดยไม่ผิดระเบียบ ไม่ใช่บังคับให้ทำ เช่น กรณีที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติ ทหาร ตำรวจ และอื่นๆ สามารถมาสมัครเข้าเรียนข้ามภูมิลำเนาได้ แต่การจะรับเข้าเรียนหรือไม่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสถานศึกษา และหากโรงเรียนใดไม่มีการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษไว้ก็ไม่ต้องปฏิบัติ" นาย สุขุมกล่าว และว่า อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ตนจะนำทีมคณะกรรมการติดตามฯ ตรวจสอบการรับสมัครที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก