x close

นวัตกรรมฝึกหายใจ ผลงานนักวิจัย ม.ขอนแก่น

 




นวัตกรรมฝึกหายใจ ผลงานนักวิจัย มข. (ไทยโพสต์)

         งานกายภาพบำบัดเฉพาะทางด้านระบบหายใจ เป็นงานด้านการบำบัดรักษาความบกพร่องและเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของปอด เช่น การระบายอากาศ การแลกเปลี่ยนก๊าซในผู้ป่วยตั้งแต่ระยะวิกฤติจนถึงระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ ด้วยวิธีการทางกายภาพที่ใช้หลักการหรือกลไกการทำงานตามธรรมชาติของปอดมาบำบัดสาเหตุของความบกพร่องนั้นๆ

         ปัญหาที่พบในผู้ป่วยระบบหายใจ ได้แก่ เสมหะคั่งค้างในหลอดลมทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจ ปอดแฟบ การหายใจน้อย กล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง ภาวะหอบเหนื่อยง่าย ซึ่งพบในผู้ป่วยโรคปอดต่างๆ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดช่องท้องส่วนบนหรือทรวงอก ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจหรือหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยที่อัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้หรือไม่รู้สึกตัว ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจได้ง่าย ปอดแฟบต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานขึ้น ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและทำให้คุณภาพชีวิตลดลง

         แต่ประสิทธิภาพของการรักษาทางกายภาพบำบัดยังเป็นปัญหา เนื่องจากนักกายภาพบำบัดมีน้อย ไม่สามารถให้การรักษาอย่างเพียงพอ เพราะการรักษาแต่ละครั้งต้องใช้เวลา 30-60 นาที วันละหลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นทุก 1-3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องฝึกให้ผู้ป่วยรักษาตัวเองซึ่งจะทำได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากผู้ป่วยมีอุปกรณ์ใช้ในการฝึกด้วยตัวเอง นอกจากนั้นผู้ป่วยบางโรค เช่น มะเร็งปอด หลอดเลือดโป่งพอง ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้เทคนิคทางหัตถการ การใช้อุปกรณ์ช่วยจึงเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาได้

         ผศ.ดร.ชุลี โจนส์ อาจารย์ประจำสายวิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ทำการศึกษาวิจัยคิดค้นอุปกรณ์ฝึกหายใจอเนกประสงค์ BreatheMAX นวัตกรรมสำหรับการบำบัดระบบหายใจ ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

         ผศ.ดร.ชุลี กล่าวว่า BreatheMAX เป็นอุปกรณ์ฝึกหายใจด้วยน้ำ ประกอบด้วยขวดใส่น้ำที่มีท่อ 2 ท่อ ท่อหนึ่งเป็นท่อยาวจุ่มใต้น้ำ อีกท่อเป็นท่อสั้นอยู่เหนือน้ำ อุปกรณ์นี้ใช้ประโยชน์ได้หลายประการ คือ 1.ให้ความชื้นต่ออากาศที่หายใจเข้าและทำให้เกิดแรงสั่นในหลอดลม จึงสามารถใช้ในการระบายเสมหะเพิ่มขึ้น 2.ให้สัญญาณป้อน กลับจากเสียงฟองอากาศแตก ซึ่งสามารถบอกลักษณะการหายใจได้ จึงใช้ในการฝึกหายใจลึกและควบคุมลักษณะการหายใจตามต้องการ 3.ใช้แรงดันน้ำเป็นแรงต้านต่อการหายใจเข้าหรือออก จึงใช้ในการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ และ 4.เกิดแรงดันบวกขณะหายใจออกในหลอดลม จึงช่วยเปิดหลอดลมและถุงลมมากขึ้น ซึ่งใช้ในการลดภาวะปอดแฟบและเพิ่มการระบายอากาศในผู้ป่วยโรคปอดได้

         BreatheMAX มีคุณสมบัติเด่นที่ไม่มีในอุปกรณ์ฝึกหายใจจากต่างประเทศ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละแบบล้วนทำงานได้เพียงอย่างเดียว แต่ BreatheMAX สามารถทำงานได้อเนกประสงค์ ในอุปกรณ์เดียวทั้งยังมีราคาถูกกว่าอุปกรณ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดย BreatheMAX จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 650 บาท ขณะที่อุปกรณ์ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท จึงทำให้รัฐประหยัดงบประมาณในการสั่งชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เป็นจำนวนหลายล้านบาทต่อปี

         ปัจจุบันอุปกรณ์ฝึกหายใจนำไปใช้จริงกับผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลขอนแก่น และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เป็นต้น โดยผ่านการจดอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. 0-4320-2085.


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นวัตกรรมฝึกหายใจ ผลงานนักวิจัย ม.ขอนแก่น อัปเดตล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 17:46:32 2,263 อ่าน
TOP