สั่ง 369 รร. ดังส่งแผนรับสมัคร (ไทยโพสต์)
สพฐ.จัด 3 แผนรับเตรียมนักเรียนปี 54 ล้อมคอกโรงเรียนดัง 369 แห่ง ห้ามตุกติก สั่งให้ทำแผนรับเด็กให้เสร็จก่อนเปิดสมัคร พร้อมจัดตลาดนัดเปิด Open House ให้ผู้ปกครองและนักเรียนร่วมฟังนโยบาย
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าที่ประชุมได้มีการหารือเตรียมพร้อมในการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2554 โดย สพฐ.ได้เตรียมแผนรองรับไว้ 3 แผน คือ
1. การเตรียมด้านปริมาณ สพฐ.ได้มอบให้โรงเรียนอัตราการแข่งขันสูง 369 แห่ง จัดทำข้อมูลเชิงประมาณจำนวนการรับ การทำแผนของการขยายนักเรียนต่อห้องเป็น 50 คน เป็นต้น ซึ่งต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนการประกาศรับนักเรียน จากนั้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่อยู่ในกลุ่มต้องเฝ้าระวังหรือเขตพื้นที่การศึกษาที่มีโรงเรียนอัตราการแข่งขันสูงตั้งอยู่ จะต้องทำแผนในภาพรวมของเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดูจำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการว่ามีจำนวนเท่าไร และจะต้องจัดสรรโอกาสให้กับนักเรียนได้มีที่เรียน โดยช่วงก่อนเปิดรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ในวันที่ 12-16 มีนาคม ต้องมีแผนการจัดสรรโอกาสให้กับนักเรียนทุกคน
2. การเตรียมแผนการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปจะมีกิจกรรมหลักๆ ได้แก่ การจัดตลาดนัดเรียนต่อ ม.1 และ ม.4 จะเชิญผู้ปกครองและนักเรียนมาร่วมรับฟังนโยบายการเรียนต่อจะจัดในวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ นอกจากจะมีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. เช่น โรงเรียนอัตราการแข่งขันสูงมาจัดนิทรรศการแล้วจะยังมีโรงเรียนเอกชน สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาร่วมด้วย ส่วนในวันที่ 5-6 มีนาคม จะจัดกิจกรรมเปิดบ้านโรงเรียน หรือ Open House โรงเรียนอัตราการแข่งขันสูง
3. การเตรียมแผนแก้ไขสถานการณ์เมื่อถึงเวลาประกาศผลการรับนักเรียน ตั้งแต่การสอบจับสลาก โดย สพฐ.จะพยายามดำเนินการจัดสรรที่เรียนให้กับนักเรียนที่พลาดหวัง โดยใช้ระยะเวลาที่สั้นที่สุด ซึ่งในการจัดสรรที่เรียนนั้นจะยึดจากอันดับโรงเรียน 2-3-4 ที่นักเรียนเลือกไว้ตอนสมัครเรียน โดยการจัดสรรจะยึดตามเขตพื้นที่บริการของนักเรียนเป็นหลัก ดังนั้นตนอยากให้นักเรียนเลือกโรงเรียนอันดับ 2-3-4 ในเขตพื้นที่บริการของตนไว้ก่อน ส่วนกรณีของเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานครเขต 2 เดิมที่มีการล้นมากในทุกปีนั้น ปัญหาน่าจะมีไม่มากและน่าจะแก้ไขปัญหาเด็กล้นได้.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
