ประเดิมวันแรก โรงเรียนประมาณ 4,100 แห่งทั่วประเทศ เดินหน้าปรับลดเวลาเรียน เลิกบ่าย 2 จากนั้นเน้นเสริมกิจกรรม ฝึกทักษะด้านอื่น ตั้งเป้าเด็กคิด-แยกแยะ และวิเคราะห์เป็น
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนนำร่องลดเวลาเรียนประมาณ 4,100 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่งเปิดภาคเรียนที่ 2 เป็นวันแรก ได้เริ่มปรับลดเวลาในห้องเรียนตามนโยบายรัฐบาลแล้ว โดยจะมีการเรียนการสอนในชั้นเรียนถึงเวลา 14.00 น. ของแต่ละวัน จากนั้นนักเรียนจะมีโอกาสได้ปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นการพัฒนาทักษะในด้านอื่น ๆ ภายในโรงเรียน
สำหรับโรงเรียนที่ลดเวลาเรียน ประมาณ 4,100 แห่ง แบ่งเป็นดังนี้
- โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 3,831 แห่ง
- โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 161 แห่ง
- โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 108 แห่ง
- โรงเรียนเอกชนและอื่น ๆ กว่า 100 แห่ง
โดยกิจกรรมที่จะนำมาเสริมจากการลดเวลาเรียนนั้น เป็นกิจกรรมในลักษณะบูรณาการร่วมหลายหน่วยงานตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ แบ่งเป็น 3 หมวด 13 กลุ่มกิจกรรม ได้แก่
หมวดที่ 1 สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ แบ่งเป็น
กลุ่มที่ 1. กิจกรรมพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร ตัวอย่างกิจกรรม สนุกกับภาษาไทย English is fun กลุ่มที่ 2. พัฒนาความสามารถด้านการคิด และการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง ตัวอย่างกิจกรรม ไข่อะไรเอ่ย หุ่นยนต์วิเศษ ศิลปะสร้างสรรค์ กลุ่มที่ 3. พัฒนาความสามารถด้านการแก้ปัญหา ตัวอย่างกิจกรรม การถกแถลงแสดงความคิดเห็น กลคณิตศาสตร์ วางอย่างไรให้ถูกจุด กลุ่มที่ 4. พัฒนาความสามารถด้านการใช้เทคโนโลยี ตัวอย่างกิจกรรม เที่ยวไกลไร้พรมแดน การสร้างงานด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Virtual Field Trip กลุ่มที่ 5. พัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ตัวอย่างกิจกรรม ฟุด ฟิด ฟอ ไฟ สไตล์มูฟวี่ (ภาษาอังกฤษ) แยกฉันแล้วเธอจะได้อะไร (แยกตัวประกอบคณิตศาสตร์) นิทานหรรษา (นิทาน 3 ภาษา)หมวดที่ 2 สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม
กลุ่มที่ 6. ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึก การทำประโยชน์ต่อสังคม มีจิตสาธารณะและการให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ตัวอย่างกิจกรรม นักสืบสายน้ำ มือปราบขยะ นักอนุรักษ์น้อย พี่สอนน้อง/เพื่อนสอนเพื่อน กลุ่มที่ 7. ปลูกฝังความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตัวอย่างกิจกรรม ตามรอยพ่อ โครงการทำดีเพื่อพ่อ เรียนรู้อุทยานราชภักดิ์ กลุ่มที่ 8. ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม ตัวอย่างกิจกรรม ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ โครงการคุณธรรม กลุ่มที่ 9. ปลูกฝังและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตัวอย่างกิจกรรม ภูมิใจในบ้านเกิด สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น หมวดที่ 3 สร้างเสริมทักษะการทำงานการดำรงชีพและทักษะชีวิต
กลุ่มที่ 10. ตอบสนองความสนใจความถนัดและความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ตัวอย่างกิจกรรม ร้องได้ร้องดี ชีวีมีสุข รวมศิลป์สร้างสรรค์ แนะแนว กลุ่มที่ 11. ฝึกการทำงานทักษะทางอาชีพ และอยู่อย่างพอเพียง ตัวอย่างกิจกรรม ร้อยลูกปัด ถ่ายภาพมือโปร เกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ ตลาดนัดพอเพียง กลุ่มที่ 12. พัฒนาความสามารถด้านการใช้ทักษะชีวิต ตัวอย่างกิจกรรม การปรับตัวให้เหมาะสม คู่ Buddy พี่รหัส ว่ายน้ำ และ กลุ่มที่ 13. สร้างเสริมสมรรถนะทางกาย ตัวอย่างกิจกรรม วันกีฬาครอบครัว Bike for yourself และกีฬาสากล ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างที่เปิดกว้างไว้ โดยครูสามารถนำไปปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน เชื่อว่าเมื่ออบรมครู และหารือกับผู้เกี่ยวข้องแล้ว จะได้รายการกิจกรรมมากขึ้น
อย่างไรก็ดี นโยบายดังกล่าวนี้จะใช้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และมัธยมศึกษา 1-3 ยกเว้นช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และในส่วนของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น กระทรวงศึกษาการ จะมีชุดสมาร์ทเทรนเนอร์ จำนวน 300 ทีม ลงตรวจประเมินผลทั่วประเทศ ทุกหนึ่งสัปดาห์ ทุกเดือน และทุก 3 เดือน เพื่อนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ว่าประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
ภาพจาก ครอบครัวข่าว3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
