เปิดใจ พ่อบัณฑิตจุฬาฯ สุดปลื้ม ลูกสวมครุยก้มกราบเท้า เผยภูมิใจที่ลูกชายตั้งใจเรียน ไม่อายที่มีพ่อจบแค่ ป.4 และเป็นแค่พนักงานขับรถขนขยะ ด้านลูกเผยชีวิตวัยเรียนที่ไม่ได้มีอย่างคนอื่นเขา
เรียกว่าเป็นภาพความประทับใจที่ถูกแชร์ถล่มทลายในโลกโซเชียล (5 ตุลาคม 2558) กับภาพชายหนุ่มในชุดครุยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งคุกเข่ากราบเท้าพ่อ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก Klanarong Srisakul พร้อมข้อความว่า พ่อของตนไม่ได้ทำงานเลิศหรู แต่ตนเห็นพ่อมาตั้งแต่เด็ก ตนและพ่อมีความฝันร่วมกัน กระทั่งตนสอบเพื่อเรียนที่จุฬาฯ พ่อก็ลางานเพื่อมาดูว่าตนสอบติดหรือไม่ ผลปรากฏว่าตนสอบผ่าน และการเรียนจุฬาฯ คือความภูมิใจเล็ก ๆ ของครอบครัว และเมื่อเรียนจบก็ขอบคุณที่พ่อสนับสนุนทุกอย่าง ภูมิใจที่มีพ่อเป็นพ่อ พ่อสามารถทำให้ลูกคนเก็บขยะมายืนตรงนี้ได้ และไม่เคยคิดว่าน้อยหน้าใคร ลูกคนเก็บขยะทำให้พ่อภูมิใจได้แล้ว พ่อไม่ต้องไปอายใคร อ่านข่าว : บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบเท้าพ่อ ภูมิใจที่พ่อทำให้ลูกคนเก็บขยะเดินมาถึงจุดนี้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ได้เดินทางไปพูดคุยกับนายเมฆ ศรีสกุล วัย 54 ปี พนักงานขับรถขนขยะ พ่อของนายกล้าณรงค์ ศรีสกุล หรือ แม็ก ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพบัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบเท้าพ่อ โดยนายเมฆ เล่าว่า หลังจากที่ลูกชายของตนเดินทางไปรับชุดครุย ก็ได้โทรศัพท์มาถามตนว่า วันนี้เลิกงานกี่โมง เมื่อตนเลิกงาน ปรากฏว่า ลูกชายแต่งชุดครุยเดินมาหา ก่อนจะก้มกราบเท้าของตนที่หน้ารถขยะตามที่มีภาพปรากฏในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
นายเมฆ เล่าถึงความรู้สึกที่ลูกชายก้มกราบเท้าว่า ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจมากที่เห็นลูกชายทำแบบนั้น เรียกว่าตอนนั้นพูดอะไรไม่ออกเลย ทำได้แต่ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจและภูมิใจ ตัวลูกชายก็ร้องไห้ด้วย ตอนเด็ก ๆ ลูกเคยถามตนว่า ทำไมตนไม่เป็นทหาร หรือเป็นตำรวจ ตนก็ได้แต่บอกลูกว่า พ่อจบแค่ ป.4 ไม่มีความรู้คงทำงานแบบนั้นไม่ได้ แล้วตนก็สอนลูกเสมอให้ตั้งใจเรียนให้สูง ๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน ไม่ต้องมาลำบากเหมือนตน
และตอนที่รู้ว่าลูกสอบเข้าจุฬาฯ ได้ตนดีใจมาก ซึ่งตนก็แอบกลัวว่า ลูกจะอายไหมที่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่มีพ่อเป็นแค่คนเก็บขยะ แถมลูกยังต้องคอยประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เวลาเพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ได้ไป เพราะตนไม่มีเงินให้ลูกไปเที่ยวกับเพื่อน พอมาถึงวันนี้ ตนอยากบอกว่า ตนรักและภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก
ขณะที่ นางพรหมชนก ศรีสกุล ผู้เป็นแม่ของแม็ก เล่าว่า พ่อของแม็กทำงานเป็นพนักงานขับรถขนขยะ ซึ่งต้องทำงาน 7 วันแล้ว ทุก ๆ วันหลังเลิกงานก็จะไปเก็บขยะที่ตลาดไปขายเป็นรายได้เสริม เนื่องจากรายได้ประจำไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะทางครอบครัวอยากส่งเสียให้ลูกเรียนจบสูง ๆ โดยตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาวซึ่งกำลังเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนคนเล็กคือ แม็ก เพิ่งเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกำลังจะมีการรับปริญญาในวันที่ 9 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ดี วันนี้ (6 ตุลาคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้เดินทางไปสัมภาษณ์น้องแม็กกับครอบครัวที่บ้านใน จ.สมุทรสาคร โดยเมื่อไปถึงก็พบว่าครอบครัวนี้อยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ แม็ก และพี่สาวคนหนึ่ง ซึ่งกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท สำหรับบ้านก็เป็นทาวน์เฮ้าส์เล็ก ๆ อยู่กันแบบอบอุ่น โดยน้องแม็กได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่า ในวันที่ตนไปกราบพ่อไม่ได้บอกพ่อล่วงหน้าว่าจะไปหา โทรศัพท์ถามแค่อยู่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนตอนนั้นพ่ออยู่ที่ทำงานซึ่งก็คือที่จอดรถขยะ พอไปถึงตนก็ก้มกราบพ่อ ซึ่งบรรดาเพื่อน ๆ พ่อที่ทำงานเก็บขยะด้วยกันก็ปรบมือแสดงความยินดีด้วย
แม็ก กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้พ่ออาย เพราะพ่อชอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตนไม่อยากให้พ่อแม่คิดแบบนั้น เพราะพ่อแม่ก็ส่งเสียตนเรียนจนจบได้เหมือนครอบครัวอื่น ๆ เขา..
"พ่อผมเขาจะเป็นแบบชอบอายอะครับ ชอบอายว่าเขาทำงานแบบนี้ ทำงานอยู่กับสิ่งสกปรก แต่ผมก็รู้สึกภูมิใจ ที่พ่อไม่ได้เรียนสูง ไม่ได้รวย ไม่ได้เหมือนพ่อคนอื่น แต่ก็สามารถพาผมมาเรียน ในที่ที่พ่อแม่คนอื่นเขามีโอกาสมากกว่า ตอนเรียนเพื่อน ๆ ก็ชวนไปกินอะไรแพง ๆ เป็นบุฟเฟ่ต์มื้อละ 500 บาท ผมก็จะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ก็บอกเพื่อนว่าไม่มีเงิน ส่วนเพื่อนก็เข้าใจบอกว่า ไม่เป็นไรออกให้ ซึ่งคนที่เขาเข้าใจผมก็มี แต่บางคนก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องให้เพื่อนออกให้ ทำไมไม่ออกเงินเอง อย่างบางครั้งไปเลี้ยงสายรหัส ผมต้องทำเป็นไม่อยากไป เพราะว่า เราไม่มีอะครับ ยิ่งผมใช้เงินมากเท่าไร พ่อผมก็ยิ่งเหนื่อยมากเท่านั้น" แม็ก บัณฑิตจุฬาฯ กล่าว
world_id:56132d2f4d265aaf3a8b4575
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Klanarong Srisakul, เรื่องเล่าเช้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
