สมเกียรติ อ่อนวิมล ระบุ การเปลี่ยนนโยบายการศึกษาบ่อย ทำให้การศึกษาของเด็กไทยไม่ไปถึงไหน และลดชั่วโมงเรียนไม่ช่วยอะไรต้องเพิ่มชั่วโมงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ชี้ คำสั่งแบบทหารไม่สามารถปฏิรูปการศึกษาได้
จากกรณีที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ มีมติให้โรงเรียนเลิกเรียนเวลา 14.00 น. และเบื้องต้นจะให้โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมด 38,000 โรงเรียน นำร่องโครงการ โดยให้เริ่มต้นได้ทันทีในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว นักเรียนเตรียมเฮ เทอมต่อไป อาจได้เลิกเรียนบ่าย 2 โมง]
ล่าสุดวันนี้ (28 สิงหาคม 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อมวลชน ได้ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นผ่าน ทวิตเตอร์ somkiatonwimon ถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็มีการเปลี่ยนนโยบายการศึกษา ทำให้การศึกษาของเด็กไทยไม่ไปถึงไหน อย่างเช่น การสั่งลดชั่วโมงเรียนที่ทางคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็เห็นชอบตามไปด้วย ทำไมถึงไม่มีการโต้เถียง เพราะการที่ทหารมาเป็นรัฐมนตรีก็จะออกคำสั่งแบบทหารไม่สามารถปฏิรูปการศึกษาได้อย่างนักวิชาการ และไม่ว่าจะรัฐบาลพลเรือนหรือรัฐบาลทหารก็มีการเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการบ่อยพอกัน
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองที่เป็นคนรุ่นเก่า เห็นว่าควรต้องเพิ่มชั่วโมงเรียน ไม่ใช่ลดชั่วโมงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้แข่งขันสู้กับเด็กทั่วโลกได้ และปัญหาของระบบการศึกษาไทยคือไม่ค้นหาศักยภาพของเด็กนักเรียนให้พบและไม่ช่วยผลักดันให้เด็กบรรลุศักยภาพของตนเองอย่างแท้จริง ต้องให้ผู้ใหญ่คิดแทนเด็กหมด
ทั้งนี้เวลา 8 ชั่วโมงที่โรงเรียนก็เป็นเวลาเรียนทั้งสิ้น อยู่กับว่าจะมีการจัดการอย่างไรให้เรียนได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งเด็กทุกคนต้องค้นหาตัวเองให้พบ เข้าโรงเรียนอะไรก็ได้ที่เหมาะแล้วขยันเรียนให้สุดแรง เพิ่มเวลาเรียนให้กับตัวเองให้มาก อย่างเช่นตนเองที่ขยันเรียนและเรียนหนักประกอบกับช่วยพ่อแม่ทำงานหนัก ทำให้ได้ทุนเรียนไปต่างประเทศตั้งแต่มัธยมปลาย ที่สหรัฐฯ, ปริญญาตรี-โท ที่อินเดีย และปริญญาเอก ที่สหรัฐฯ
สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังนี้
ภาพจาก Twitter @somkiatonwimon, เฟซบุ๊ก สมเกียรติ อ่อนวิมล | Somkiat Onwimon