เดินเครื่องใช้"โอเน็ต"เลื่อนชั้น (ไทยโพสต์)
ศธ.เดินเครื่องใช้โอเน็ตเลื่อนชั้น ม.1 และ ม.4 เล็งออกประกาศ ศธ.หวังทุกโรงเรียนนำคะแนนไปใช้ หารือ สพฐ.ขยับตารางรับนักเรียนปีหน้าให้สอดคล้องกับการสอบโอเน็ต
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงการนำผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ตไปใช้ในการคัดเลือกเด็กเข้าศึกษาตต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ว่าที่ผ่านมานายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.ได้ย้ำชัดมาตลอดว่า ศธ.สนับสนุนให้มีการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยนำมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ซึ่งปีนี้ก็มีหลาย รร.ที่แสดงความประสงค์มาว่าอยากจะนำคะแนนโอเน็ตไปใช้แต่ปีนี้ไม่ทัน เพราะหากจะนำไปใช้ต้องมีการขยับตารางการรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพื่อให้ระยะเวลาการสอบโอเน็ตและการรับนักเรียนมีความสอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้กำลังหารือกับ สพฐ.อยู่ว่าจะปรับตารางสอบและตารางการรับนักเรียนอย่างไรให้มีความสอดคล้องกัน
นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า ในส่วนของการรับนักเรียนปีการศึกษา 2554 ซึ่งที่ผ่านมานายชินวรณ์เองก็เห็นด้วยที่จะให้มีการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้ประโยชน์ และมีแนวโน้มว่าปีหน้าจะมีการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้ในการเลื่อนชั้นอย่างแน่นอน ซึ่งหากจะให้มีการนำใช้ได้จริงก็จะต้องใช้ทั้งหมดทุกสังกัด ดังนั้นจึงอาจจะต้องประกาศเป็นนโยบายที่ชัดเจน
ถามว่าหากในปีต่อไปมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลจะทำให้นโยบายการนำคะแนนโอเน็ตไปใช้เปลี่ยนไปหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองถึงตรงนั้นเพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เบื้องต้นก็ได้มีการหารือกับ รมว.ศธ.ว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องออกเป็นประกาศ ศธ. หรือให้ทุก รร.ปฏิบัติตาม ขณะเดียวกันก็จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพราะหากออกเป็นประกาศ ศธ.ก็เท่ากับว่าทุก รร.ต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่เป็นไปตามความสมัครใจของ รร.
ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (ผอ.สทศ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามี รร.ติดต่อขอผลคะแนนโอเน็ตเข้ามาที่ สทศ.กว่า 10 โรง ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด แต่เนื่องจาก รร.ติดต่อมาช้าเกินไป สทศ.จึงไม่สามารถประกาศผลสอบได้ทัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนแนวคิดการปรับเปลี่ยนการสอบโอเน็ตของเด็ก ป.6 และ ม.3 โดยใช้วิธีการสุ่มสอบคนละ 10% ของข้อสอบ และสอบ 8 วิชานั้น ขณะนี้ สทศ.ได้ประสานไปยัง สพฐ.แล้ว เพื่อหารือร่วมกันว่าจะจัดสอบอย่างไร เพราะหากจัดสอบในรูปแบบดังกล่าวก็จะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดสอบ ขณะเดียวกัน รร.ยังมีผลคะแนนการจัดการเรียนการสอนในภาพรวมแต่เด็กก็จะไม่มีคะแนนรวมเป็นรายบุคคลที่สมบูรณ์.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก