แชร์ประสบการณ์เด็กปี 1 สอบติดทุกที่ กับเคล็ดลับเรียนดีที่ขอบอกต่อ


แชร์ประสบการณ์เด็กปี 1 สอบติดทุกที่ กับเคล็ดลับเรียนดีที่ขอบอกต่อ
 
                นักศึกษา ปี 1 คณะแพทยศาสตร์ แชร์ประสบการณ์พร้อมเคล็ดลับ “เด็กเก่ง” สอบตรง-โควตา ติดทุกมหาวิทยาลัย ทุกคณะ บอกกว่าจะมาถึงวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ด้านชาวเน็ตแห่ชื่นชมความขยัน
 
                พอใกล้ถึงเวลาเลือกเส้นทางต่อไปของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็มักจะมีเรื่องราวดี ๆ จากบรรดารุ่นพี่มาบอกเล่าประสบการณ์การเรียนของตน ก่อนจะฝ่าฟันมาเป็น 1 ในเฟรชชี่ ให้กับรุ่นน้องได้รู้ รวมถึงเป็นแนวทางให้กับน้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายได้ศึกษาไว้เป็นแนวทางในการวางแผนพิชิตศึกเอนทรานซ์

                อย่างเรื่องราวของผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 1491305 อดีตนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คนหนึ่ง ที่ก้าวเท้าไปสู่รั้วคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้แบบไม่ยาก แถมยังสามารถคว้าโควตา และสอบตรงติดทุกมหาวิทยาลัย ทุกคณะ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์และเคล็ดลับ ก่อนจะมาเป็น “เด็กเก่ง” อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ผ่านกระทู้ชื่อ “อยากแชร์ประสบการณ์ในฐานะเด็กเก่ง สอบติดทุกที่ มันเห็นแก่ตัวมากมั้ย มาฟังกัน” เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2558
 
                ซึ่งภายหลังจากกระทู้นี้ได้ถูกตั้งขึ้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ชื่นชมในความพยายามและความขยันของเจ้าของกระทู้ ขณะที่บางส่วนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยที่นักเรียนยังคงต้องไปพึ่งพาการเรียนพิเศษ มากกว่าการเรียนการสอนในห้องเรียน 

                สำหรับเรื่องราวที่คุณสมาชิกหมายเลข 1491305 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม บอกเล่าผ่านกระทู้ มีดังนี้
 
                ผมเองเป็นเด็กที่คนอื่น ๆ จะเรียกว่า "เด็กเก่ง" อันที่จริงผมไม่ชอบหรอก ผมอยากให้เรียกว่า "เด็กขยัน" มากกว่า ตัวผมเองเป็นเด็กรุ่น 57 ตอนนี้เรียนปี 1 ที่คณะแพทย์แห่งหนึ่งในประเทศไทยนี่แหละครับ หวังว่าจะไม่ทำให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ เสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้ และอยากเป็นทั้งข้อคิดและกำลังใจด้วย

                เกริ่นก่อนว่าที่เขียนกระทู้นี้ขึ้น เพราะตัวผู้เขียนเองรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นในหลาย ๆ ครั้งมีคนมาต่อว่าด่าทอ เมื่อตัวผู้เขียนเองไปสอบติดที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ แต่ไม่เอา ว่าเราเห็นแก่ตัว ว่าเราเอาเปรียบคนอื่น รู้สึก... ไม่ดีมาก ๆ ผมเลยอยากจะมาเล่าชีวิตของผมให้ฟังบ้าง ให้พวกคุณลองฟังชีวิตของคนที่พวกคุณเรียกว่า "เด็กเก่ง" ว่ามันสวยหรู น่าอิจฉาอย่างที่พวกคุณคิดกันมั้ย มาฟังกันครับ

                ตัวผมนั้นเป็นครอบครัวรายได้ปานกลาง พ่อแม่เป็นข้าราชการ และแน่นอน ความฝันของพ่อแม่ก็คือให้ลูกเป็นหมอ แบบครอบครัวธรรมดาทั่วไป การเป็นหมอต้องสอบให้ติด แน่นอน การสอบมันยากมาก ตัวผมเองอยู่โรงเรียนของ กทม. ก็จริง แต่ไม่ใช่โรงเรียนดังอย่างเตรียมอุดมฯ ความสำเร็จที่จะสอบติดมันยาก ผมต้องตั้งใจให้มาก

                ผมเริ่มเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่ปิดเทอม ม.3 ขึ้น ม.4 แม่ "บังคับ" ผมให้เริ่มเรียนพิเศษ ผมโดนส่งไปเรียนที่ตึกวรรณสรณ์ ตรงสถานีรถไฟฟ้าพญาไท เสริมสำหรับคนไม่รู้ ที่ตึกวรรณสรณ์ เราต้องเดินเรียนแบบมหาลัย แต่ละวิชาจะมีห้องเรียนของตัวเองและถ้าเวลามันกระชั้นชิด ครับ "วิ่ง ไอ้หนู วิ่งงงงงงง" ตารางเรียนของผมตามที่แม่จัดให้คือวิชาแรก 08.30-10.00 น. วิชาถัดมา 10.10-12.40 น. กินข้าว 20 นาที ต่อด้วยตอนบ่าย 13.00-15.30 น. เป็นอันหมดวัน เมื่อกลับบ้านผมไม่มีหน้าที่ทำงานบ้านใด ๆ หน้าที่ของผมคือ อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนที่เรียนมาวันนี้ทั้งหมด จำให้ได้ทุกหน้า ฟังไม่ผิดหรอกครับ ทุกหน้า เพราะเดี๋ยวตอนก่อนนอนแม่จะถามว่าวันนี้เรียนอะไรมาบ้าง ผมมีหน้าที่สรุปทุกบทเรียนที่เรียนมาเล่าให้แม่ฟัง (เดี๋ยวผมจะบอกว่ากิจกรรมก่อนนอนนี้ช่วยผมได้มาก) ก่อนนอนก็ต้องทำการบ้าน ที่ได้มาวันนี้ให้เสร็จ ห้ามค้าง เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเรียนเรื่องถัดไป + เฉลยการบ้าน เสร็จก็ประมาณ 22.00 น. แล้วเข้านอน ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ในระหว่างปิดเทอมก่อนขึ้น ม.4 ไม่มีหยุดพัก ไม่มีเสาร์ อาทิตย์

                เมื่อเปิดเทอม คาบเรียนของผมที่โรงเรียนคือตั้งแต่ 08.00-16.00 น. แต่ผมไม่หยุด หลังเลิกเรียน ผมรีบไปเรียนพิเศษต่อที่อาคารวรรณสรณ์ เวลาเรียนแตกต่างกันไป อาจจะ 17.00-19.30 น. หรือ 18.00-21.00 น. ก็แล้วแต่วิชาที่เรียน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เหมือนเดิมครับ เล่าให้แม่ฟังว่าเรียนอะไรมาบ้าง แล้วก็ทำการบ้านที่โรงเรียนและโรงเรียนเรียนพิเศษให้เสร็จ (ประมาณ 22.30 น.) แล้วก็เข้านอน

                ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ก็จะคล้าย ๆ ปิดเทอม คือเรียนตั้งแต่ 08.30-15.30 น. แล้วกลับมาทำทบทวน ทำการบ้าน เข้านอน เตรียมตัวสำหรับวันถัดไป

                การเรียนในห้องเรียนผมไม่ค่อยใส่ใจเท่าการเรียนที่โรงเรียนพิเศษ จะว่ากันตรง ๆ แล้วโรงเรียนสอนสู้โรงเรียนเรียนพิเศษไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมทำข้อสอบได้คะแนนสูงสุดของห้องโดยไม่ต้องฟังที่อาจารย์สอนเลย อาศัยแค่โรงเรียนเรียนพิเศษอย่างเดียว เวลาในห้องเรียนและพักเที่ยงของผมหมดไปกับการทำข้อสอบ entrance เก่าตั้งแต่ปี 254x มาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน แน่นอนคุณเดาได้ว่าผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนและไม่ได้เล่นกีฬาอะไร ตลอดการเรียน ม.ปลาย 3 ปี เวลาเกือบทั้งหมดของผมทุ่มให้กับการเรียน

                เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุด เปิดเทอม 1 ของชั้น ม.6 หลังเปิดเทอมแค่ไม่กี่สัปดาห์การสอบตรงต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศก็เริ่มต้นขึ้น สำหรับผม มันไม่ยากเลยที่จะสอบให้ติด ต้องขอบคุณความพยายามตลอด 3 ปีจริง ๆ ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคณะ ที่ผมไปสอบ รวมถึงการยื่นโควตาต่าง ๆ ผมติดตัวจริงทุกที่ และสุดท้ายผมเลือกคณะแพทย์ตามที่พ่อแม่ใฝ่ฝันไว้ ผมเป็นคนแรกอองทั้งชั้นที่ได้แพทย์ก่อนใคร ชีวิต ม.6 เทอม 2 ของผมจึงมีแต่ เที่ยว กิน เล่น นอน เกม การ์ตูน กีฬา อันนี้ขอบอกน้อง ๆ ถ้าเข้ามาอ่าน การมีที่เรียนแล้ว ชีวิตมันดีจริง ๆ

                ก็ไม่ได้จะอวดอะไร แค่อยากให้ทุก ๆ คนได้ฟังบ้าง ว่าการเป็นคนเก่งมันไม่ง่าย ไม่สุขสบาย ผมได้ลองถามเพื่อนในคณะว่าแต่ละคนเป็นมา อย่างไร ทำยังไงถึงสอบติด คุณคงเดาได้ พวกเขาไม่ต่างจากผม พวกเราทุกคนทุ่มสุดตัว เพื่อนเล่นเราเรียน เพื่อนพักเราอ่านหนังสือ เพื่อนเที่ยวเราหัดทำแบบฝึกหัด เพื่อนเหนื่อยเราก็เหนื่อย แต่เราไม่หยุด เรายังเรียนต่อไป มีหลายครั้งที่ผมนอนร้องไห้บนเตียง ภาวนาเมื่อไหร่ ช่วงเวลานี้จะผ่านไป มันเหนื่อยเหลือเกิน ผมอยากให้ทุกคนเห็นใจเราบ้าง การที่ได้สอบติดหลาย ๆ ที่ การมีคนชมเชย การถูกเรียกไปโชว์ตัวเมื่อได้คะแนนสูง ๆ ที่พวกคุณเกลียด ขอเถอะครับ ให้มันเป็นรางวัลของพวกเรา ให้เราได้สิทธิ์ที่เราควรได้ เรายอมเสีย ทุกอย่าง ทั้งเวลา ทั้งเงิน ทั้งชีวิต ม.ปลาย ที่ควรมี เพื่อความรู้ที่มากเกินพอในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้โปรด อย่าก่นด่าว่าเราเห็นแก่ตัว

                สำหรับคนที่เตรียมตัวสอบ ผมไม่อยากทำลายความฝันของพวกคุณ ผมอยากให้คุณอ่านดูชีวิตผม คนแบบผมมีอีกหลายพันคนที่ทำแบบเดียวกัน คุณต้องแข่งกับพวกเขา เพื่อเก้าอี้ 1 ตัวในมหาวิทยาลัย มันเป็นการแข่งขันที่ยากลำบาก ผมขอให้พวกคุณโชคดีตามปรารถนา

                สุดท้ายนี้ผมอยากบอกคุณว่า one night success นั้นไม่มีจริง ทุกความสำเร็จที่คุณเห็น เกิดจากการลงแรงทำงานหนักทั้งนั้น

                สวัสดีครับ



ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แชร์ประสบการณ์เด็กปี 1 สอบติดทุกที่ กับเคล็ดลับเรียนดีที่ขอบอกต่อ อัปเดตล่าสุด 24 มีนาคม 2558 เวลา 15:24:11 5,418 อ่าน
TOP
x close