รับสมัครม.1, ม.4 รออีก5วันก่อนชี้ชัด (ไทยโพสต์)
ศธ.ยันยังไม่ปรับปฏิทินรับสมัคร ม.1, ม.4 รอประเมินสถานการณ์หลังวันที่ 23 นี้ ขณะที่เด็กบางส่วนใน 169 เขตพื้นที่ฯ นอกพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เตรียมสอบแล้วเสาร์ที่ 20 มี.ค.นี้ ด้าน สพฐ.ย้ำผู้ปกครองอย่ากังวลปัญหาได้เปรียบ-เสียเปรียบ เตรียมหามาตรการตัดชื่อเด็กแก้ปัญหาสมัครซ้ำซ้อน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ศธ.ได้ประกาศเลื่อนรับสมัครนักเรียนและการสอบของนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ในโรงเรียนซึ่งอยู่ใน 8 จังหวัดที่มีการประกาศ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เพราะเกรงว่าผู้ปกครองและนักเรียนจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม และคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสายด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ 1579 ทราบว่ามีผู้ปกครองได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเรื่องการรับสมัครสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้อธิบายจนเข้าใจ แต่ผู้ปกครองยังมีความห่วงกังวลเรื่องประกาศปฏิทินในการรับสมัครและการสอบที่แน่นอนว่าจะประกาศได้ในช่วงใด ทั้งนี้ ศธ.ได้เตรียมแผนการทำประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่นักเรียนและผู้ปกครองหลังจากวันที่ 23 มี.ค.นี้ ซึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับกำหนดการสอบคัดเลือดที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน
"ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการมอบตัวของนักเรียนแน่นอน เพราะ ศธ.จะกำหนดวันมอบตัวนักเรียนปีการศึกษา 2553 ในวันเดียวกันพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะไม่ส่งผลให้เกิดผลได้ผลเสียของนักเรียนในต่างจังหวัดที่มีการสอบไปแล้ว ในส่วนของการเรียนการสอนก็ไม่มีผลกระทบเพราะอยู่ในระหว่างการปิดเทอม แต่อาจจะมีปัญหาในช่วงที่จะต้องเตรียมการรับนิสิต-นักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ที่บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้รายงานตัว ดังนั้น ขอให้แต่ละสถานศึกษาใช้ดุลยพินิจว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหนหากการชุมนุมยืดเยื้อออกไป หรือหากมีการชุมนุมที่นำไปสู่ความรุนแรง สถานศึกษาสามารถสั่งปิดสถานศึกษาได้และรายงานให้ ศธ.ทราบ" นายชินวรณ์ กล่าว
ด้าน ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือร่วมกับผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) และผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่ 8 จังหวัด ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาหารือถึงแนวทางการรับนักเรียนว่า สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในจังหวัดที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ให้รอการประเมินสถานการณ์หลังวันที่ 23 มี.ค. ซึ่ง สพฐ.จะกำหนดแนวทางการรับสมัครและประกาศให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางการรับสมัครจะยึดหลักการให้โอกาสนักเรียนได้เข้าเรียนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ปกครองแสดงความห่วงใยว่าอาจจะมีปัญหาการสมัครซ้ำซ้อนทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
"สพฐ.ยืนยันว่า การรับสมัครจะต้องมีความเป็นธรรม และจะหามาตรการในการตรวจสอบรายชื่อเพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนไปใช้สิทธิซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองเกิดความสับสน สพฐ.จะเป็นผู้ให้ข้อมูลการรับสมัครเป็นหลัก โดยขอให้โรงเรียนและผู้ปกครองยึดตามที่ สพฐ.ประกาศ" ดร.ชินภัทรกล่าว
ส่วนโรงเรียนในเขตพื้นที่ฯ ที่ไม่ได้อยู่ประกาศในใน พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร จำนวน 169 เขตพื้นที่ฯ นั้น ยืนยันการรับสมัครให้เป็นไปตามปฏิทินเดิม คือรับสมัครตั้งแต่วันที่ 13 - 17 มี.ค. และสอบวันที่ 20 - 21 มี.ค. จับฉลากวันที่ 28 มี.ค.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
