เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ อาร์มอาร์มอาร์ม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เผยเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับการสอบโทอิคให้ได้คะแนนสูง ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือ แต่ต้องฝึกให้เข้าใจ และใช้ในชีวิตประจำวัน
ทุกวันนี้ถือได้ว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงาน เนื่องจากข้อมูลข่าวสาร สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ล้วนแล้วแต่วิวัฒน์และพัฒนา อธิบายด้วยภาษาอังกฤษทั้งนั้น ดังนั้นผู้ที่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ ย่อมได้เปรียบกว่าผู้ที่พูดเพียงแค่ภาษาไทย และจะเห็นได้ว่า ในบริษัทบางแห่งได้กำหนดคะแนนวัดความรู้ด้านการฟังและพูดภาษาอังกฤษอย่าง TOEIC เอาไว้ด้วย เพื่อที่จะได้สร้างความแน่ใจว่า ผู้สมัครนั้น มีความรู้และมีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างเพียงพอ
ทว่า การสอบ TOEIC ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่แวดล้อมอยู่ในสังคมที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ทำให้การฟัง การพูด ไม่พัฒนาเท่าที่ควร และบางคนอาจจะต้องสอบ TOEIC ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้ได้คะแนนถึงเกณฑ์การสมัครงาน หรือบางคนก็ไปสมัครเข้าเรียนกับติวเตอร์หรือสถาบันต่าง ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวเคล็ดลับในการสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนดี ซึ่งล่าสุด (20 มกราคม 2558) คุณ อาร์มอาร์มอาร์ม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบโทอิคให้ได้ 925 จากคะแนนเต็ม 1,000 ว่าทำอย่างไร และที่สำคัญ ไม่ต้องอ่านหนังสือไปสักเล่ม !
เคล็ดลับการทำสอบโทอิคให้ได้คะแนน 925 โดยที่ไม่ต้องอ่านหนังสือไปสักเล่ม มีดังนี้
1. การเล่นเกม
คุณเจ้าของกระทู้ เคยติดเกมเนื้อเรื่องอย่าง Warcraft 3 และพบว่าตัวเองเล่นไม่ผ่าน เพราะไม่รู้ว่าตัวละครพูดว่าอะไร จากนั้น เขาจึงไปหยิบดิกชันนารีขึ้นมาเปิดหาคำศัพท์ทีละคำ ๆ จนกว่าจะเข้าใจ และรู้สึกว่าประโยคนั้นฟังเข้าใจแล้ว ซึ่งวิธีการนี้ จะทำให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ และเมื่อเจอคำศัพท์นี้ ประโยคนี้อีกครั้ง เราก็จะพอเดาได้ว่า ตัวละครพูดว่าอะไร
2. การจดจำคำที่มีรากศัพท์ใกล้เคียงกัน
เมื่อเรารู้คำศัพท์แล้ว หากเราพบกับคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกับคำเดิม เราก็จะเริ่มเดาได้ เช่น
Note - สังเกต
Notice - สังเกตเห็น
Notify - ทำให้สังเกต (แจ้งเตือน)
Notification - การทำให้สังเกต (การแจ้งเตือน)
หรือ
Separable - แยกกันได้
Inseparable - แยกกันไม่ได้
อย่างไรก็ตาม คำศัพท์บางคำ อาจจะไม่ได้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ เช่น Genius ที่แปลว่าอัจฉริยะ ส่วน Ingenious ก็แปลว่าอัจฉริยะเช่นกัน
3. การดูภาพยนตร์ซาวด์แทร็ก
การดูหนังแบบซาวด์แทร็ก ให้ตัวละครพูดภาษาอังกฤษนั้น นอกจากที่ผู้ดูจะได้อารมณ์สนุกแล้ว เรายังได้เรียนรู้ว่า คนต่างชาติพูดอะไร พูดกันอย่างไร คำบางคำเป็นศัพท์สแลง ซึ่งไม่มีในบทเรียน ผู้ฟังก็จะสามารถศึกษาได้เพิ่มเติมด้วย โดยที่ในตอนแรก หากยังไม่เข้าใจก็ให้เปิดซับไตเติลภาษาไทยขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ซับไตเติลภาษาอังกฤษ เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ให้ปิดซับไตเติล โดยไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะหากปิดซับไตเติลแล้วฟังออกครึ่งหนึ่ง ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และถ้าหากเข้าใจประมาณ 70% ก็จะถือว่าพร้อมแล้วสำหรับการสอบฟัง เพราะการดูหนัง จะช่วยในเรื่องการจับใจความ การอ่านความหมายที่ซ่อนเร้น ซึ่งส่วนนี้ มักจะมีการทดสอบใน TOEIC เป็นประจำ
ทั้งนี้ หากเราเรียนรู้คำศัพท์ได้แล้ว เราก็เหมือนกับเข้าใจภาษาอังกฤษกว่า 70% และพร้อมสำหรับการสื่อสาร ส่วนเรื่องแกรมม่า และ การจับคำผิด (Error) ก็จะพอให้จับคำผิดได้ ซึ่งการทำแบบนี้ ต้องใช้เวลา และคิดว่ามันเป็นชีวิตประจำวัน จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อย ฝึกท่องศัพท์ เรียนรู้ศัพท์ใหม่ ๆ วันละอย่างน้อย 10 คำ ก็จะได้แล้ว
นอกจากนี้ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่ง คือหลายคนอาจจะสอบฟังไม่ทัน แล้วกลับไปคิด เพราะจะมีการพูดแค่รอบเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องกลับไม่คิด ตั้งสติ หากตอบแล้วก็ตอบเลย เพราะถ้าหากกลับไปคิดอาจจะทำข้อสอบไม่ทัน