นักเรียนทนไม่ไหว แฉคลิปครูเรียกเก็บเงินค่ามาสาย อ้างเป็นค่า SMS แจ้งพ่อแม่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ qwerty qwsvc สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
             
             นักเรียนสุดจะทาน แฉคลิปครูเรียกเก็บเงินค่ามาสาย  อ้างเป็นค่า SMS ส่งรายงานผู้ปกครอง ไล่นักเรียน ไปถามแม่.. แม่เรียนบริหารมาเปล่า

             เป็นเรื่องราวที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกไซเบอร์เลยทีเดียว เมื่อมีนักเรียนทนไม่ไหวของอัดคลิปแฉพฤติกรรมของคุณครูโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เรียกเก็บเงินค่ามาสายของนักเรียนคนละ 20 บาท พร้อมกับอ้างว่า..จะเอาเงินไปเติม SMS เพื่อส่งข้อความหาผู้ปกครองของนักเรียนรายงานการมาสายดังกล่าว..
            
             ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวคุณ สมาชิกหมายเลข 1946052 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ได้โพสต์ข้อความและคลิปไว้เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2557 ระบุว่า..

             "สวัสดีค่ะกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา กระทู้นี้เกิดจากการที่เราทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของคุณครูฝ่ายกิจการนักเรียนของโรงเรียนเราค่ะ

             เรื่องมันเริ่มมาจากการที่โรงเรียนได้ติดตั้งเครื่องสแกนนิ้วเช็กชื่อคนขาด ลา มา สาย ซึ่งเจ้าเครื่องสแกนนิ้วเนี่ยมีระยะเวลาในการสแกนของมันคือ ตอนเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 08.00 น. และตอนเย็นคือ 16.00 -17.30 น.

             แต่จริง ๆ แล้วพอถึงเวลาประมาณ 07.40 น. - 07.45 น.  คุณครูก็จะมาไล่ให้ไปเข้าแถวและไม่ให้สแกนนิ้วแล้ว ซึ่งเพื่อนสนิทเราเจอมากับตัวเพื่อนเราคนนี้จะมาโรงเรียนทันเข้าแถวพอดีคือ 07.45 น. และเธอก็วิ่งเพื่อให้ไปทันสแกนนิ้วแต่ว่าคุณครูที่ฝ่ายกิจการเนี่ยก็ไม่ให้สแกน (ทั้ง ๆ ที่ระบบสแกนนิ้วยังไม่ปิด) และบอกให้ไปสแกนพร้อมกับคนที่มาสายเลย ซึ่งเรื่องมันก็เกิดขึ้นตอนนี้แหละค่ะ คุณครูผู้ชาย 2-3 คน มาไล่เก็บเงินนักเรียนในแถวมาสายคนละ 20 บาท เพื่อแลกกับการที่เราจะได้สแกนนิ้ว (ถ้าไม่สแกนจะเช็กขาดทันทีต่อให้มาโรงเรียน)


             ความจริงเราไม่เคยมาสายแต่พอเพื่อนเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเราก็เดือดมาก (ถึงแม้เรื่องจะไม่เกี่ยวกับเราก็ตาม) แต่เรายอมไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทำแบบนี้มันเข้าข่ายรีดเงินเด็กชัด ๆ คิดดูนะคะเก็บเงินคนละ 20 บาท มีคนมาสายอย่างต่ำวันละ 50 คน (จากประมาณ 1,500 คน) พวกคุณครูจะได้เงินไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท จะตกเดือนนึงถึง 30,000 บาท มากกว่าเงินเดือนครูเสียอีก ซึ่งถ้าคุณครูบอกที่มาที่ไปว่าจะเอาเงินของเด็กไปทำอะไรและมีผลงานเป็นรูปเป็นร่างให้เราได้รู้ (เช่น เอาเงินมาจัดงานเลี้ยงให้นักเรียน หรือเอาเงินไปบริจาคทำบุญ) เราก็จะไม่ว่าเลย แต่นี่คืออะไร ? เก็บเงินแล้วเอาไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าว ความจริงเราก็เกือบจะร้องเรียนตั้งแต่วันแรกที่รู้แล้วค่ะ แต่เพื่อนเราห้ามไว้ก่อนเพราะคุณครูอาจจะมีเหตุผลของท่าน เราเลยตกลงกันว่าวันพรุ่งนี้เราจะไปถามคุณครูท่านนั้นกันให้รู้เรื่องและนี่คือคำตอบที่เราได้ค่ะ



             คุณครูมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับเราแบบนี้คะ ? ถ้าว่าแค่เด็กเราก็ยังพอทน แต่นี่คือลามปามไปถึงบุพการีของเรา ทำแบบนี้แล้วยังกล้าเรียกตัวเองว่าคุณครูเหรอคะ ? คำพูดของคุณมันส่งถึงความไร้วิจารณญาณไร้การยับยั้งชั่งใจซึ่งเป็นสมบัติพื้นฐานมาก ๆ สำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชน...ทำแบบนี้เรารับไม่ได้ค่ะ

             แล้วยังข้ออ้างข้าง ๆ คู ๆ ของคุณอีก คุณครูบอกว่าเก็บเงิน 20 บาท เป็นค่า SMS เพื่อคอยรายงานผู้ปกครองว่าเรามาสาย ค่า SMS ที่ไหนราคา 20 บาทคะ ? เราให้มากสุดไม่เกิน 5 บาท แล้วค่าไฟถ้าเป็นค่าชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือของคุณต่อให้ใช้หมดเลย 100% ค่าไฟต่อการชาร์จ 1 รอบยังตกไม่ถึง 1 บาท แต่ถ้าเป็นค่าไฟที่เครื่องสแกนนิ้วพวกเราก็จ่ายกันไปทุกเทอมแล้วเทอมละ 5,000 บาท แล้วค่าน้ำ, ค่าเดินทางอันนี้ไม่เข้าใจค่ะสแกนนิ้วเกี่ยวอะไรกับน้ำและการเดินทาง ?


             ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนมาถึงบรรทัดนี้ และก็ขอโทษด้วยถ้าเราแท็กห้องผิดยังไงให้เตือนมาได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ"

             อย่างไรก็ดี จากกรณีดังกล่าวก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่คุณครูตอบไม่ตรงคำถาม ให้เหตุผลในการเอาเงินไปใช้แบบไม่ชัดเจน รวมถึงการถามนักเรียนว่า.. "ไปถามแม่.. แม่เรียนบริหารมาเปล่า" ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ผู้ปกครองเลย แต่กลับพาดพิงถึง ขณะที่มีบางส่วนกลับด่านักเรียนที่มาตั้งกระทู้ บอกว่าทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง