สพฐ. เล็งตั้งทีมสอบโรงเรียนขายตรง ผอ. ชี้เด็กเสียโอกาส

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณแอปเปิ้ลในสวนเอเดน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

            สพฐ. เผยข่าวครูนัดประชุมผู้ปกครอง หลอกไปฟังขายตรง เบื้องต้นยังไม่มีความผิดเพราะโรงเรียนมีหลักสูตรสอนวิชาขายตรง แต่พบข้อมูลวงใน ผอ. มีอาชีพเสริมเป็นนักขายตรงด้วย เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ด้าน ผอ. สั่งเบรกทัศนศึกษา ชี้เด็กเสียโอกาสมาก

            จากประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีที่ คุณแอปเปิ้ลในสวนเอเดน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้เล่าเรื่องราวประสบการณ์การประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสำโรง แต่เมื่อเข้าไปกลับพบว่า อาจารย์พยายามบอกว่า การเรียนต่อมหาวิทยาลัยจบไปก็เป็นแค่ลูกจ้าง หนำซ้ำบางคนจบมาก็ไม่มีงานทำ เลยเสนอแนะทางเลือกด้วยการหยิบยื่นธุรกิจ "HLP = Happy Life Project" ที่ไม่ต้องเรียนต่อก็มีรายได้เลย ทำแค่ 3-6 เดือน ก็มีเงินเป็นแสน ๆ ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวคือการขายตรงนั้น

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (7 ตุลาคม 2557) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ได้มีเจ้าหน้าที่สอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า นายพงษ์ศักดิ์ ธีระวรรณสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ ยังไม่มีความผิด เนื่องจากนายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่าทางโรงเรียนเปิดห้องเรียนพิเศษสายศิลป์ธุรกิจขึ้นมา 1 ห้อง มีนักเรียนเรียนทั้งหมด 30 คน ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจัดสอนวิชาขายตรงอยู่ด้วย ส่วนกรณีที่จะจัดทัศนศึกษาที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูงานนอกสถานที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้ชี้แจงผู้ปกครองไปแล้ว จึงสรุปว่านายพงษ์ศักดิ์ไม่มีความผิดแต่อย่างใด

            อย่างไรก็ตาม ทาง สพฐ. ได้รับข้อมูลวงในมาว่า กรณีดังกล่าวน่าจะมีความผิดปกติอยู่ เนื่องจากนายพงษ์ศักดิ์มีอีกหนึ่งอาชีพคือเป็นนักขายตรง อีกทั้งกรณีนี้ก็เป็นการทำกิจกรรมเฉพาะเจาะจงกับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง ซึ่งหากเป็นวิชาสอนขายตรงจริง ก็ไม่ควรระบุชื่อบริษัทเป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการเก็บค่าใช้จ่ายรายละ 550 บาท อ้างว่าเป็นค่าสมัครสมาชิก ซึ่งโดยปกติหากให้นักเรียนไปดูงาน ต้องไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ หรือถ้าจะเก็บก็น่าจะเก็บแค่ค่าเดินทางเท่านั้น แต่นี่เก็บถึง 550 บาท ซึ่งเรื่องนี้ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

            นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม) นายพงษ์ศักดิ์ ได้เรียกผู้ปกครองของนักเรียนที่เข้าประชุมในวันเกิดเหตุมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยนายพงษ์ศักดิ์บอกว่า กระแสจากสังคมออนไลน์อาจทำให้ผู้ปกครอง ครู และนักเรียนบางส่วนได้รับผลกระทบ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันทุกคนก็เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเห็นด้วยกับกิจกรรมที่โรงเรียนทำ ส่วนการไปดูงานนั้นได้สั่งระงับไปแล้ว ซึ่งตนคิดว่าเป็นการเสียโอกาสของเด็กมาก เพราะแทนที่เด็กจะได้ไปสัมผัสอนาคตข้างหน้า กลับต้องหยุดชะงัก แต่หากผู้บังคับบัญชาเห็นด้วยก็จะพาเด็กไปดูงานอีกครั้ง

            ด้าน นางนฤมล เถาว์สิงห์ อายุ 40 ปี ผู้ปกครองของนักเรียนที่เข้าประชุม กล่าวว่า วันนั้นที่โรงเรียนเชิญประชุมเกี่ยวกับการแนะแนวการเรียนและหลักสูตรการศึกษา โดยบอกว่าเป็นหลักสูตรที่มีประโยชน์ต่อนักเรียน เมื่อจบแล้วจะได้ออกมาหาเลี้ยงชีพได้ และในวันนั้นไม่มีการขายสินค้าหรือชักชวนให้ขายตรงแต่อย่างใด แต่เขาแนะนำให้ไปดูกิจกรรมที่งานที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีเท่านั้น     


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก